Sunday, June 8, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

ติดตามแนวโน้มตลาด e–Commerce จีน ปี 2564

10/03/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
1
SHARES
727
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้ผู้บริโภคชาวจีนปรับพฤติกรรม และหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (e-Commerce) มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาด e-Commerce ของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ยอดค้าปลีกสินค้าออนไลน์มีมูลค่ากว่า 9.8 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.8 จากปีก่อนหน้า ทำให้จีนยังคงตำแหน่งตลาดค้าปลีกสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8 สำหรับในปี 2564 นี้ คาดการณ์ว่าตลาด e-Commerce จีนจะยังคงขยายตัวอย่างโดดเด่น และบริษัทวิจัยตลาด Coresight Research ได้รายงานแนวโน้มตลาด e-Commerce จีนที่ผู้ที่สนใจรวมถึงผู้ประกอบการไทยควรจับตามอง ดังนี้

.

 1. Livestreaming จะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ขาดไม่ได้

Livestreaming จะเป็นอาวุธทางการตลาดที่สำคัญมากและมีแนวโน้มที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหันมาทำ livestreaming เองแทนการจ้าง Key Opinion Leaders หรือ KOLs เนื่องจาก (1) ต้นทุนต่ำกว่า – การจ้าง KOLs 1 ครั้ง ร้านค้าต้องจ่ายค่าจ้าง และอาจรวมถึงค่าคอมมิชชั่นจากการขายให้กับ KOLs เช่น หนึ่งใน KOLs ชื่อดังของจีนอย่าง Austin Li คิดค่าจ้าง 60,000 หยวน และค่าคอมมิชชั่นร้อยละ 20 จากการทำ livestreaming ให้กับขนมขบเคี้ยวยี่ห้อหนึ่งในเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ในปี 2563 ที่ผ่านมา (2) ความเข้าใจและการแนะนำสินค้าที่ลึกซึ้ง – KOLs มักจะแนะนำสินค้าหลาย ๆ ชนิดในการไลฟ์ 1 ครั้งซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถแนะนำสินค้าแบบลงลึกได้เท่าที่ควร อาทิ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2563 Viya อีกหนึ่ง KOLs ชื่อดังได้แนะนำขายสินค้าถึง 149 ชนิดในระยะเวลาการไลฟ์ 8 ชั่วโมง (3) สามารถเพิ่มความถี่ของการไลฟ์ได้มากขึ้น – ร้านค้าสามารถจัดไลฟ์ได้เท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่า KOLs จะมีเวลาว่างให้หรือไม่ โดยแบรนด์อย่าง Adopt A Cow ได้จัดตั้งทีมงานเพื่อไลฟ์ขายสินค้าเองโดยเฉพาะ และทำการไลฟ์ทุก ๆ วัน ตั้งแต่ มี.ค. 2563 เป็นต้นมา ซึ่งในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 มียอดผู้ชมรวมกว่า 400,000 ครั้ง ทั้งนี้ KPMG ร่วมกับ AliResearch ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยของ Alibaba คาดการณ์ว่า ในปี 2564 ตลาด livestreaming e-commerce ของจีนจะเติบโตต่อเนื่อง และมีมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านล้านหยวน เติบโตถึงร้อยละ 384 จากปี 2562

.

2. แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นจะแบ่งส่วนแบ่งตลาด e-commerce ได้มากขึ้น

แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังฮิตติดลมบนอย่างโต่วอิน (Douyin) หรือ TikTok และ ไคว่โฉ่ว (Kuaishou) เติบโตอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 Douyin มีผู้ใช้รวมกว่า 524 ล้านคน เติบโตร้อยละ 8.5 YoY ส่วน Kuaishou มีผู้ใช้รวมกว่า 408 ล้านคน เติบโตร้อยละ 20.4 YoY และแพลตฟอร์มเหล่านี้กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาด e-Commerce จากเจ้าเก่าอย่าง Alibaba JD.com และพินตัวตัว (Pinduoduo) ด้วยกลยุทธ์ผนวกรวมทั้ง user-generated content และการช้อปปิ้งเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2563 Douyin เริ่มแบนการขายของผ่านแพลตฟอร์มของ Alibaba และบังคับให้ผู้ที่ต้องการขายของต้องขายของผ่านเสี่ยวเตี้ยน (Xiaodian) ซึ่งเป็นช่องทางการขายของ Douyin เอง ซึ่งยอดขายของ Xiaodian ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 44.9 เท่า และมีร้านค้าเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 17.3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

3. มินิโปรแกรมจะเป็นเครื่องมือในการขายและการสื่อสารกับลูกค้าที่สำคัญ

ในปี 2563 ที่ผ่านมาหลาย ๆ แบรนด์ เช่น Baidu และ Wechat ใช้ช่องทางมินิโปรแกรมในการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง รวมถึงใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายสำคัญ ซึ่ง Wechat รายงานยอดขายผ่านมินิโปรแกรมในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. 2563 ว่ามีการเติบโตถึงร้อยละ 115 YoY โดยยอดขายที่มีการเติบโตสูงได้แก่ ของใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าแบรนด์เนม และห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ Wechat ยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นไลฟ์ในมินิโปรแกรม และ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 มีผู้ขายกว่า 1 แสนรายที่ใช้ฟังก์ชั่นไลฟ์นี้แล้ว

.

4. กลยุทธ์ C2M จะยิ่งกระตุ้นให้ e-commerce เติบโต

การเข้าใจความต้องการของลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ซึ่งระบบ C2M (Customer to Manufacture) ช่วยผู้ผลิตในประเด็นนี้อย่างมาก เพราะได้นำเทคโนโลยีและ Big Data มาช่วย ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาและต้นทุนในการพัฒนาสินค้า รวมทั้งสามารถผลิตสินค้าที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ JD.com รายงานว่า ยอดขายสินค้า C2M ของ JD.com ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2563 เติบโตถึงร้อยละ 654 YoY และยังได้ประกาศอีกด้วยว่า แพตลฟอร์ม Jingxi ของ JD.com ตั้งเป้าเดินหน้าส่งเสริมให้โรงงานผู้ผลิต 1 แสนราย ยกระดับการผลิตผ่านระบบ C2M ทั้งนี้ บริษัทวิจัย Vzkoo ของจีนคาดการณ์ว่า ตลาด C2M จีนจะมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านหยวนภายในปี 2565

.

5. ตลาดสินค้าแบรนด์หรูจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ปี 2563 เป็นอีกหนึ่งปีทองของตลาดสินค้าแบรนด์หรูในจีน เนื่องด้วยแบรนด์หรูต่าง ๆ หันไปใช้ช่องทางออนไลน์ในการขายมากขึ้น รวมกับข้อจำกัดในการเดินทางไปต่างประเทศซึ่งเป็นผลกระทบจากโรค COVID-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวจีนหันมาซื้อสินค้าแบรนด์หรูในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา ตลาด e-Commerce แบรนด์หรูมีมูลค่ารวม 9.3 หมื่นล้านหยวน และ McKinsey คาดว่า ตลาดนี้จะมีมูลค่ากว่า 1.47 แสนล้านหยวนภายในปี 2568

.

6. กลยุทธ์ “เทศกาลช้อปปิ้ง” จะเป็นกิจกรรมหลักที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี

ในปี 2563 เทศกาลช้อปปิ้งยังคงดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ของ Alibaba มีมูลค่ายอดขายรวมทุกช่องทาง (GMV) อยู่ที่ 4.982 แสนล้านหยวน สูงกว่ายอดขายรวมของปี 2019 กว่า 1 เท่าตัว โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ยอดขายพุ่งทะยานเป็นเพราะ Alibaba จัดงานติดต่อกัน 11 วัน (1-11 พ.ย. 2563) ไม่ได้จัดเพียงวันเดียวเหมือนปีก่อน ๆ ทั้งนี้ ในปัจจุบันหลาย ๆ แพลตฟอร์มได้สร้างเทศกาลช้อปปิ้งของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน เช่น เทศกาล 616 ของ Kuaishou และเทศกาล Chongfen ของ Douyin เป็นต้น

.

7. แพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง Community Group Buying จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง

อีกหนึ่งแนวโน้มใหม่ที่เติบโตอย่างมากท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 คือ Community Group Buying หรือ การรวมกลุ่มของผู้ซื้อในชุมชน ซึ่งเป็นการชวนคนในชุมชนมารวมกันซื้อของในจำนวนมากจากผู้ผลิต/ผู้ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อได้สินค้าในราคาที่ถูก สะดวก และประหยัดเวลาเดินทาง โดยผู้เล่นรายใหญ่หลาย ๆ รายได้กระโดดเข้ามามีส่วนร่วมในวงการนี้ เช่น (1) Chengxin Youxuan ของ Didi Chuxing (2) Meituan Youxuan ของ Meituan (3) Duo Duo Maicai ของ Pinduoduo และ (4) Nice Tuan ของ Alibaba

.

8. เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ e-Commerce สนุก และน่าตื่นเต้นขึ้น

พัฒนาการของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วยส่งเสริมให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์สนุก น่าตื่นเต้น และยังช่วยประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการอย่างมาก โดย Alibaba เผยว่า ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ของปี 2563 มีร้านค้ากว่า 100 ร้านที่ใช้พิธีกรปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ในการไลฟ์ขายสินค้า นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยี AI ในการตอบคำถามของลูกค้า และแปลไลฟ์แบบ real-time เป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเชีย ภาษาสเปน

.

9. บริษัท e-Commerce จะลงทุนในเครือข่าย Last-mile Delivery มากยิ่งขึ้น

เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว ผู้ประกอบการ e-Commerce จีนลงทุนในเครือข่าย Last-mile Delivery หรือ การจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าปลายทาง มากยิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา และจะลงทุนต่อเนื่องในอนาคต โดยในเดือน มิ.ย. 2563 Cainiao ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าของ Alibaba เผยว่า จะสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีก 30,000 จุด ใน 100 เมืองทั่วจีน

.

10. COVID-19 เร่งให้ New Retail เติบโตอย่างรวดเร็ว

New Retail หรือ การค้าปลีกยุคใหม่ ซึ่งเป็นการผสานประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 สร้างแรงกดดันและแรงกระตุ้นให้ร้านค้าต่าง ๆ เร่งพัฒนาช่องทางการขายทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อขยายช่องทางการขายและเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

.

อาจกล่าวได้ว่า การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นั้น เป็นทั้งความท้าทายและโอกาส ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ตลาด e-Commerce และพฤติกรรมผู้บริโภคจีนเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่ผู้ประกอบการจีนมีการปรับตัวในการเผชิญสถานการณ์ COVID-19 ได้เป็นอย่างดีนั้น ส่งผลให้ระดับการแข่งขันในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากการที่จีนนั้นเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยสามารถดูแนวทางการปรับตัวของจีน และนำมาเป็นตัวอย่างสำหรับการพัฒนาธุรกิจของตนต่อไปได้ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการลดต้นทุน และส่งเสริมการขาย ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจต่างชาติได้อย่างยั่งยืน

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

.

ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.transtimenews.co/5402/

Previous Post

สิงคโปร์ตั้งวิสัยทัศน์การเป็นศูนย์กลางระดับโลกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง นวัตกรรม และแรงงานทักษะที่มีฝีมือ (Singapore’s Manufacturing 2030 Vision)

Next Post

การขาดดุลการค้าของปากีสถานขยายตัวร้อยละ 10.64 ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

การขาดดุลการค้าของปากีสถานขยายตัวร้อยละ 10.64 ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ

Post Views: 1,981

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X