Friday, June 6, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของบราซิล และความสัมพันธ์ด้านการค้ากับไทย

01/09/2021
in ทันโลก, อเมริกาใต้
0
1
SHARES
1.5k
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

ภาวะเศรษฐกิจของบราซิล

.

ในไตรมาสแรกของปี 2564 GDP ของบราซิลขยายตัวขึ้นร้อยละ 1.2 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบด้วย

(1) การบริโภคในประเทศชะลอตัวลงร้อยละ 0.1

(2) การใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงร้อยละ 0.8

(3) การลงทุนเติบโตขึ้นร้อยละ 4.6

(4) มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7

(5) มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 โดยมีมูลค่า GDP ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเทียบเท่ากับในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19

.

นอกจากนี้ จากการจัดอันดับของ Consultancy Austin Rating พบว่า ภาวะเศรษฐกิจของบราซิลในไตรมาสแรกของปี 2564 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.2 ถูกจัดในอยู่ในอันดับที่ 19 จากการอันดับทั้งหมด 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ แม้ว่าบราชิลจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกที่ 2 แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2564 เติบโตขึ้น เนื่องจากมีการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เว้นระยะห่างและจำกัดกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจน้อยลงกว่าในปี 2563 ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้แก่ ภาคการเกษตร (เติบโตขึ้นร้อยละ 5.7) ภาคอุตสาหกรรม (เติบโตขึ้นร้อยละ 0.7) และภาคบริการ (เติบโตขึ้นร้อยละ 0.4)

.

แม้ว่าบราซิลจะเริ่มประสบกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ Delta ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจบราซิลโดยรวม แต่ขณะนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจของบราซิลที่มีทิศทางในเชิงบวก

.

สำหรับการประเมินภาวะเศรษฐกิจบราซิลในปี 2564 นักวิเคราะห์ของสถาบันการเงินของบราซิลได้คาดการณ์ว่ามูลค่า GDP ของบราซิลในปีนี้จะเติบโตขึ้น 5.28% เทียบกับปีก่อนหน้า

.

ตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ

.

  1. หนี้สาธารณะ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 บราซิลมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ประมาณ 1.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 84 ของมูลค่า GDP ของประเทศ

.

  1. อัตราเงินเฟ้อ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 8.99 ซึ่งเร่งตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน ส่งผลกระทบต่อภาวะค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าและบริการพื้นฐานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน

.

  1. อัตราดอกเบี้ยพื้นฐานล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 5.25 ซึ่งมีการปรับดอกเบี้ยขึ้น 4 ครั้งในปีนี้และยังเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ เพื่อบรรเทาสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

.

  1. อัตราการว่างงาน อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 14.6 ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2564 หรือมีจำนวนประมาณ 14.8 ล้านคน นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 บราซิลมีการจ้างงานมากกว่าเลิกจ้าง จำนวน 1.5 ล้านตำแหน่ง ประกอบด้วย การจ้างงาน 9.5 ล้านตำแหน่ง และการเลิกจ้าง 8 ล้านตำแหน่ง

.

  1. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 มีมูลค่าอยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในปี 2563 บราซิลมี FDI มากที่สุดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก อยู่ที่ 69,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

.

การค้าระหว่างไทยกับบราซิล

.

มูลค่าการค้าการนำเข้า – ส่งออกระหว่างไทยกับบราซิล ในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ทั้งหมด 2,989 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 41.06 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.97 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย โดยบราซิลเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 23 จากประเทศคู่ค้าทั้งหมด และบราซิลยังคงเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยจากภูมิภาคลาตินอเมริกา

.

การส่งออกในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีมูลค่า 1,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.13 โดยบราซิลเป็นประเทศส่งออกที่สำคัญของไทยในอันดับที่ 24 และบราซิลยังประเทศส่งออกอันดับที่ 2 ของไทยจากภูมิภาคลาตินอเมริการองจากเม็กชิโก ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปยังบราซิลเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากบราซิลต้องการนำเข้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นจากการที่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของบราซิลเริ่มกลับมาผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นภายหลังจากที่ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมของบราซิลได้รับผลกระทบจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้มีการชะลอการผลิตสินค้า ส่งผลต่อการลดการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ

.

สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกมายังบราซิลในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกล ยางพารา รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

.

การนำเข้า ในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีมูลค่า 1,828 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.73 โดยบราซิลเป็นประเทศนำเข้าที่สำคัญของไทยในอันดับที่ 18 (สูงกว่าในปี 2563 ซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 19) และบราซิลยังคงเป็นประเทศนำเข้าอันดับที่ 1 ของไทยจากภูมิภาคลาตินอเมริกา สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากบราซิลในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ เยื่อกระดาษ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น โดยประเทศไทยนำเข้าถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร และยังได้นำเข้าเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นเนื่องจากบราซิลได้เริ่มเข้ามาเปิดตลาดเนื้อวัวในไทยได้เพิ่มมากขึ้น

.

ความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับบราซิล

.

เมื่อปี 2563 นักท่องเที่ยวชาวบราซิลเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 18,855 คน ซึ่งลดลงจากปี 2562 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 69,714 คน คิดเป็นร้อยละ 72.95 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวบราซิลเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 จากภูมิภาคลาตินอเมริกา ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามายังบราชิล จำนวน 4,025 คน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปยังบราซิลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ และมากที่สุดเป็นอันดับที่ 9 จากทวีปเอเชีย

.

ปฎิเสธไม่ได้ว่าภูมิภาคลาตินอเมริกาโดยเฉพาะประเทศบราซิลซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในด้านของการค้าและการลงทุนกับประเทศไทยรวมถึงสมาชิกอาเซียนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบันมีนักลงทุนจากไทยจำนวนมากเข้ามาประกอบธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจด้านอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล เป็นต้น นอกไปจากนั้นธุรกิจภาพยนตร์และซีรี่ส์ไทย (T-Pop) ยังเป็นที่นิยมในวงกว้างครอบคลุมทวีปลาตินอเมริกาอีกด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการไทยอาจเลือกพิจารณาส่งออก Soft Power เพื่อเสริมสร้างความเป็นที่รู้จักและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสร้างชื่อเสียงและโอกาสในการประกอบธุรกิจในอนาคต

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย

 

 

Previous Post

ข่าวมณฑลเจ้อเจียง ระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคม 2564

Next Post

สิงคโปร์เป็นอันดับที่ 4 ของโลกที่ Startup พัฒนาสู่การเป็น Unicorn ได้รวดเร็วที่สุด

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
สิงคโปร์เป็นอันดับที่ 4 ของโลกที่ Startup พัฒนาสู่การเป็น Unicorn ได้รวดเร็วที่สุด

สิงคโปร์เป็นอันดับที่ 4 ของโลกที่ Startup พัฒนาสู่การเป็น Unicorn ได้รวดเร็วที่สุด

Post Views: 3,244

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025
กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

04/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X