สถานการณ์เศรษฐกิจอาเซอร์ไบจาน ปี 2567
เศรษฐกิจอาเซอร์ไบจานมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยตัวเลข GDP โตขึ้นประมาณร้อยละ 4.1 มีมูลค่า GDP ต่อหัวที่ 7,283.80 ดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 150.80 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ไทยอยู่ที่ประมาณ 7,900 ดอลลาร์สหรัฐ)
ในส่วนการค้าระหว่างประเทศ ภาคพลังงาน อาเซอร์ไบจานได้ดุลที่ประมาณ 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคที่ไม่ใช่พลังงาน มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากคณะกรรมการสถิติอาเซอร์ไบจานระบุว่า ประเทศ 3 อันดับแรกที่มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศกับอาเซอร์ไบจานมากที่สุด คือ (1) อิตาลี (นําเข้าพลังงานจากอาเซอร์ไบจานร้อยละ 40 ของมูลค่าส่งออกพลังงานทั้งหมด) (2) ตุรกี และ (3) รัสเซีย (ร้อยละ 13 ร้อยละ 10.2 และร้อยละ 7.9 ของปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดตามลําดับ โดยคู่ค้าอันดับที่ 4 คือ จีน (ร้อยละ 3.5) ส่วนไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 16 (ร้อยละ 0.8) นอกจากนี้ คู่ค้าหลักอื่น ๆ ที่สําคัญของอาเซอร์ไบจาน ได้แก่ อิสราเอล อินเดีย กรีซ เติร์กเมนิสถาน และเยอรมนี สําหรับการค้าสินค้าอื่นที่ไม่ใช่พลังงาน อาเซอร์ไบจานยังคงพึ่งพามูลค่าส่งออกไปยังรัสเซียและตุรกี ทั้งนี้ อาเซอร์ไบจานนําเข้าสินค้าจากจีนเป็นอันดับที่ 1 (ร้อยละ 17.6)
สําหรับสินค้าที่อาเซอร์ไบจานนําเข้ามากขึ้นในปี 2567 คือ ผลไม้สด (ร้อยละ 23.6) ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก (ร้อยละ 39.6) ผักสด (ร้อยละ 58.4) เครื่องปรับอากาศ (ร้อยละ 44.1) ในส่วนของสินค้าส่งออกสําคัญที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น น้ําตาล (ร้อยละ 62.3) องุ่นและไวน์องุ่น (ร้อยละ 41.9) ใยฝ้าย (ร้อยละ 81.7) ปุ๋ยแร่ (ร้อยละ 68.6) และพลังงานไฟฟ้า (ร้อยละ 55.5)
จากข้างต้น แม้ว่าปริมาณการค้าของอาเซอร์ไบจานนั้น สะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาพลังงานเป็นสินค้าส่งออกสําคัญ อย่างไรก็ดี อาเซอร์ไบจานมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานทดแทน โดยการประกาศนโยบาย Green Agenda เช่น การเปิดสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะสร้างให้แล้วเสร็จทั่วประเทศภายในปี 2616 (ค.ศ. 2073) และวางแผนสร้างสายเคเบิลเพื่อส่งพลังงานสะอาดไปยังสหภาพยุโรป (EU) ผ่านโครงการ Black Sea – Caspian energy cable
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี อิลฮัมฯ ยังได้กล่าวในที่ประชุม COP-29 ว่า อาเซอร์ไบจานสามารถพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ สะท้อนให้เห็นจากสัดส่วนประชาชนที่ยากจนลดลงเหลือร้อยละ 5.2 และอัตราการว่างงานต่ํา เพียงร้อยละ 5.4 เท่านั้น
แนวโน้มเศรษฐกิจอาเซอร์ไบจาน ปี 2568
แม้ว่าอาเซอร์ไบจานจะพยายามเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานทดแทน แต่จากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ที่ประเทศใน EU ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ส่งผลให้อาเซอร์ไบจานกลายเป็นผู้ส่งออกพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติและน้ํามัน) รายสําคัญของ EU ทําให้เศรษฐกิจของอาเซอร์ไบจานยังคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ํามันต่อไป
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์