Monday, May 26, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

ไทย – ออสเตรีย เดินหน้า MOU สร้างความร่วมมือที่น่าสนใจใน 7 สาขา!

08/11/2022
in ทันโลก, การท่องเที่ยว I การบริการ, ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน, พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน, อาหาร I การเกษตร, เทคโนโลยี I นวัตกรรม
0
ไทย – ออสเตรีย เดินหน้า MOU สร้างความร่วมมือที่น่าสนใจใน 7 สาขา!
0
SHARES
470
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

ไทย –ออสเตรียมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ในทุก ๆ ปีชาวออสเตรียประมาณ 100,000 คนเดินทางมายังประเทศไทยและอีกหลายพันคนอาศัยอยู่ในประเทศไทย อีกทั้งมีความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ รวมถึงด้านธุรกิจ มีตัวแทนและสำนักงานขายของบริษัทสัญชาติออสเตรียประมาณ 110 แห่ง และบริษัทร่วมทุนด้านการผลิตอีกประมาณ 10 แห่งที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย นอกจากนี้ ไทย – ออสเตรียยังได้เดินหน้าความร่วมมือที่สนใจร่วมกัน 7 สาขา ตามกรอบ MOU ดังต่อไปนี้ 

(1) สาขาการท่องเที่ยว การจัดงาน “The Amazing Thailand Roadshow Austria” ณ กรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ของหน่วยงานไทย อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเปิดพื้นที่ให้ผู้แทนจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมจากไทยกว่า 30 แห่ง เดินทางมาพบกับผู้แทนจากบริษัทจัดการท่องเที่ยวในออสเตรียและจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคยุโรปกว่า 60 ราย เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวอีกครั้งภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ มีการชี้ช่องเปิดโอกาสทางธุรกิจและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลไทย อาทิ การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางออสเตรีย และชาติสมาชิกสหภาพยุโรปอีกหลายประเทศที่ขยายเป็นไม่เกิน 45 วัน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566

(2) สาขาเกษตรอินทรีย์ เมื่อวันที่ 25-30 กันยายน 2565 สถานเอกอัครราชทูตได้นำคณะผู้แทนจากฝ่ายออสเตรียเยี่ยมชมการดำเนินการของโครงการหลวง โดยศึกษาดูงานการวิจัยด้านเกษตรอินทรีย์ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเยี่ยมชมกลุ่มผักอินทรีย์ของภาคเอกชน โดยคณะผู้แทนฝ่ายออสเตรียได้เยี่ยมชมและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผัก/ผลไม้เมืองหนาว ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีในการทำเกษตรอินทรีย์ของออสเตรีย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในออสเตรีย/EU กับไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์ความรู้ และโอกาสในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังออสเตรีย/EU ในอนาคต

(3) สาขาเศรษฐกิจหมุนเวียน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตได้จัด webinar หัวข้อ Bio-Circular-Green Economy: A model for sustainable businessร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) โดยเชิญผู้แทนจาก UNIDO หน่วยงานของสหประชาชาติที่มีภารกิจสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) / สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และภาคเอกชนไทย (บริษัท “Let’s Plant Meat”) ร่วมอภิปราย 

นอกจากนี้ภารกิจในกรอบ UNIDO ของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา เน้นให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change strategy) และพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green hydrogen initiatives) ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือ public-private partnership การแสวงหาแหล่งเงินทุนจากภายนอก UNIDO ด้วย 

 (4) สาขาเมืองอัจฉริยะ ไทยได้หารือและศึกษาดูงานเรื่องเมืองอัจฉริยะ (smart city) กับออสเตรีย อาทิ City of Vienna / Urban Innovation Vienna / Aspern (Seestadt) Smart City แล้วหลายครั้ง อาทิ การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Smart City Framework Development Workshop ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2561 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 สถานเอกอัครราชทูตได้จัดกิจกรรม webinar หัวข้อ “Now and Beyond COVID-19: How innovation plays a vital role in healthcare services” โดยเน้นเรื่องแนวปฏิบัติที่ดี การบริหารจัดการของเมืองขนาดใหญ่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19) โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ โดยมีผู้แทนของ WHO และ CEO ของ Urban Innovation Vienna ร่วมอภิปรายพร้อมผู้แทนฝ่ายไทย  

(5) สาขา SMEs และ Startup เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 สถานเอกอัครราชทูตร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และสถานเอกอัครราชทูตในยุโรปอีก 5 แห่ง ได้จัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ “Europe-Asia Startup Day” เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล/ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับระบบนิเวศ (ecosystem) สำหรับ startup ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงโอกาสและแรงจูงใจสำหรับ startup ในยุโรปที่ต้องการไปลงทุนหรือประกอบธุรกิจในไทย โดยผู้แทน VBA ได้เดินทางเยือนไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลงทุนในด้าน Startups development and FoodTech Cooperations อีกด้วย

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตได้เสนอโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนและขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่าง startup ไทยและ startup ออสเตรีย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ในปีงบประมาณ 2566 โดยสถานเอกอัครราชทูตจะร่วมมือหน่วยงานทีมประเทศไทยคัดเลือกบริษัทสตาร์ตอัพไทยในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี ธุรกิจสร้างสรรค์ ธุรกิจสีเขียว หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ BCG เดินทางมาร่วมงานส่งเสริมธุรกิจและเครือข่ายธุรกิจ startup ที่กรุงเวียนนา (Vienna’UP) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

(6) การพัฒนากำลังคน ไทย-ออสเตรียได้สร้างความร่วมมือในด้านนี้ ได้แก่ (1) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาในการฝึกอบรมโดยใช้การทำงานเป็นฐาน มุ่งเน้นพัฒนากรอบความร่วมมือการฝึกอบรมด้านอาชีวศึกษาโดยการเรียนรู้โดยใช้การทำงานเป็นฐานในโรงเรียน วิทยาลัย สถาบัน อาชีวศึกษา และสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการลงนามร่วมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565

(2) การเข้าร่วมโครงการ INCREASE (INnovative Capacity building by participative and REflective teacher training for Academia, Society and Enterprises) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือด้านการศึกษาของมหาวิทยาลัยในออสเตรีย โปแลนด์ เวียดนาม และไทย ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก EU ในกรอบ Erasmus+ เน้นการฝึกอบรมครูผู้สอนให้สามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีและรูปแบบการสอนใหม่ ๆ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีกับสถาบันอุดมศึกษาในยุโรป

(3) การร่วมมือกับบริษัท AE Consulting Group เล็งผลักดันโครงการความร่วมมือเรื่องหลักสูตรพยาบาล เนื่องจากเห็นว่า ในอนาคตอันใกล้หลายประเทศจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก (aging society) ทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยออสเตรียมีความก้าวหน้าด้านการแพทย์ในระดับต้น ๆ ของยุโรป ขณะที่ไทยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ จึงเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกันในอนาคต และ

(4) เครือข่ายทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เครือข่าย ASEA-UNINET) โดยเครือข่ายดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนทุนการศึกษา ความร่วมมือในการวิจัยและกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนและร่วมมือในด้านศิลปวัฒนธรรม ทั้งด้านดนตรี ศิลปะร่วมสมัย ไปจนถึงศิลปะการออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งทั้งออสเตรียและไทยต่างมีมหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกรวมกันถึง 37 แห่ง (ออสเตรีย 19 แห่ง / ไทย 18 แห่ง)

(7) สาขาเทคโนโลยีสิ่งทอ ไทยเป็นที่ตั้งของโรงงานด้านสิ่งทอที่สำคัญของออสเตรีย เช่น 

บริษัท Lenzing เป็นบริษัทผู้ผลิตเส้นใยเซลลูโลสที่มีคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอชั้นนำของโลก มีแบรนด์สินค้าในเครือ อาทิ TencelTM, VeocelTM, LENZING™ ECOVERO™ โดยเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 ที่ จังหวัดปราจีนบุรี 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 บริษัท Lenzing ได้เปิดโรงงานผลิตเส้นใย lyocell ที่ลงทุนใหม่ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรม จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 350 คน โดยโรงงานในประเทศไทยเป็นโรงงานผลิตเส้นใย Lyocell ที่มีขนาดใหญ่และกำลังการผลิตสูงที่สุดในโลก (100,000 ตัน/ปี)และอาจขยายกำลังการผลิตและการลงทุนในไทยอีกในอนาคต

บริษัท Anita ก่อตั้งมาแล้ว 135 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1886) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชุดชั้นใน ชุดนอน ชุดกีฬาของสตรีและบุรุษ และชุดว่ายน้ำสตรีชั้นนำของออสเตรียมีฐานการผลิตที่จังหวัดชลบุรี เกิดการจ้างงาน 400 คน โดย CEO ของบริษัท Anita เปิดเผยว่า ข้อดีของประเทศไทย คือ มีบริษัท suppliers ด้านสิ่งทอที่หลากหลายและคุณภาพดี สามารถส่งวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ทางบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ suppliers ส่วนใหญ่เป็น SMEs โดยทางบริษัทมีนโยบายสนับสนุนการดำเนินการของ SMEs ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายกิจการเพิ่มเติมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย 

สถานเอกอัครราชทูต/คณะผู้แทนถาวรฯ ณ กรุงเวียนนา

อ้างอิง: https://www.bmeia.gv.at/th/oeb-bangkok/bilaterales/thailand/

Previous Post

IENA 2022 เวทีแห่งงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทย 

Next Post

ยุทธศาสตร์ไฮโดรเจนแห่งชาติและแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ค.ศ. 2050 ของสิงคโปร์

Globthailand

Globthailand

Next Post
ยุทธศาสตร์ไฮโดรเจนแห่งชาติและแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ค.ศ. 2050 ของสิงคโปร์

ยุทธศาสตร์ไฮโดรเจนแห่งชาติและแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ค.ศ. 2050 ของสิงคโปร์

Post Views: 1,406

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

23/05/2025
เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

22/05/2025
เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

22/05/2025
ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

22/05/2025
“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

22/05/2025
สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

22/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X