Sunday, May 25, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

สหภาพยุโรปเตรียมผลักดันให้มีการยุติการจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันทุกประเภทภายในปี ค.ศ. 2035

19/07/2022
in ทันโลก, คมนาคม I โลจิสติกส์, ทวีปยุโรป, พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
0
สหภาพยุโรปเตรียมผลักดันให้มีการยุติการจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันทุกประเภทภายในปี ค.ศ. 2035
1
SHARES
520
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

กระแสของรถยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle) โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) กำลังเป็นที่สนใจไปทั่วโลก เนื่องจากช่วยลดปัญหาโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ เช่นเดียวกัน สหภาพยุโรปมีการวางแนวทางและนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้คนของประเทศตนเองใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์สันดาป (Internal combustion engine – ICE) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และลดภาระรายจ่ายในการนำเข้าน้ำมันแล้ว ยังถือเป็นโอกาสพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปซึ่งมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีให้ดึงดูดนักลงทุน และรักษาฐานการผลิตรถยนต์ของประเทศไว้ได้

โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2022 สภายุโรปได้มีมติเห็นชอบร่างข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปให้มีการยกระดับมาตรฐานการปล่อยก๊าซ Co2 ให้เข้มงวดขึ้นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (Light duty vehicle) มีใจความสำคัญ ดังนี้

1) เพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซ Co2 สำหรับรถยนต์ที่มีการจดทะเบียนใหม่ในเขตสหภาพยุโรปเป็นร้อยละ 55 ภายในปี ค.ศ. 2030 และลดเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2035 โดยในส่วนของรถตู้ ให้ลดค่าการปล่อยก๊าซ Co2 เป็นร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2030 จากเดิมซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 31 ก่อนลดเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2035 เช่นเดียวกัน

2) ขยายความทั่วถึงของสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยกำหนดให้มีการติดตั้งจุดชาร์จรถไฟฟ้าบนเส้นทางสายหลักในทุกระยะ 60 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle – BEV ) และทุกระยะ 150 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell Electric Vehicle) เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

การปรับปรุงกฎหมายในครั้งนี้จะทำให้ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กของยุโรป ซึ่งหมายถึง รถยนต์นั่ง รถตู้ รถโดยสาร และรถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3.5 ตัน ต้องปลอดมลพิษภายในปี ค.ศ. 2035 ส่งผลให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องยุติการขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมัน (ทั้งรถยนต์ที่ผลิตในเขตอียู และรถยนต์ที่นำเข้า ไม่ว่าจะเป็นรถใช้น้ำมันดีเชล หรือเบนซิน รวมถึงรถยนต์ไฮบริด ภายในปี ค.ศ. 2035 และหันไปจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานที่ไม่ปล่อยมลพิษแทน

อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการประกาศร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมา กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปหลายค่ายในประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ อาทิ เยอรมนี และอิตาลี ได้ออกมาคัดค้านแผนการดังกล่าว โดยมองว่าแม้เทคโนโลยี EV ในปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าไปมาก แต่ยังคงมีจุดอ่อนหลายประการ เช่น (1) แบตเตอรี่ยังมีคุณภาพและเสถียรภาพไม่สูงพอ (2) ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (3) รวมทั้งปัญหาความพร้อมด้านทักษะแรงงาน ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV อย่างเต็มตัวของประเทศในทวีปยุโรปในเวลาอันใกล้ อีกทั้งปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาการขาดแคลนชิป ซึ่งส่งผลให้ห่วงโซ่การผลิต (supply Chain) เกิดการหยุดชะงัก หรือผลิตได้ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ดังนั้น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปจึงแนะนำให้ภาครัฐพิจารณายืดระยะเวลาสำหรับการขายรถยนต์ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันสังเคราะห์ (synthetic fuel) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกของรถยนต์เชื้อเพลิงปล่อยมลพิษต่ำที่ดี (low-emission vehicle) ออกไปอีกจนถึงปี ค.ศ. 2040 เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์สามารถปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุครถยนต์ปลอดมลพิษได้อย่างราบรื่น

ในส่วนของประเทศไทย สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบยานยนต์ เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของผู้ประกอบการไทยไปสู่ประเทศสมาชิกต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป การที่สหภาพยุโรปยกระดับมาตรฐานยานยนต์ที่ใช้ในกลุ่มประเทศสมาชิก โดยอนุญาตให้ใช้ยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซ Co2 เป็นศูนย์เท่านั้น ภายในปี ค.ศ. 2035 ย่อมส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูงขึ้น ในขณะที่ตลาดรถยนต์สันดาปจะถูกลดบทบาทลง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัวเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งเป็นผู้ส่งออกชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาตลาดและขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไปอนาคต

ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์

เรียบเรียง: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์

ที่มา:

  • https://pro.politico.eu/news/151388
  • https://www.politico.eu/article/european-parliament-car-engine-ban/
  • https://www.europarl.europa.eu/news/en/press-room/20220509IPR29105/fit-for-55-meps-backco2-emission-standards-for-cars-and-vans
Previous Post

สหราชอาณาจักร ประสบปัญหาจากสภาวะเงินเฟ้อ – ค่าครองชีพ!

Next Post

แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องหนังปากีสถาน

Globthailand

Globthailand

Next Post
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องหนังปากีสถาน

แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องหนังปากีสถาน

Post Views: 1,689

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

23/05/2025
เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

22/05/2025
เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

22/05/2025
ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

22/05/2025
“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

22/05/2025
สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

22/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X