เศรษฐกิจเนเธอแลนด์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2564 จากความพยายามของรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงอันเป็นผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงอยู่ระดับ -39 ในเดือนมีนาคม ต่ำกว่าช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 มาอยู่ระดับใกล้เคียงกับตัวเลขช่วงวิกฤติการเงินในปี 2556 โดยภาวะชะลอตัวได้ปรากฏในภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจเนเธอแลนด์
ราคาพลังงานกระทบต้นทุนการผลิต
สถานการณ์ในยูเครนเป็นปัจจัยส่งผลให้ราคาพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลกระทบต่อต้นทุนห่วงโซ่การผลิตสินค้าต่าง ๆ เช่น ต้นทุนค่าไฟฟ้า ต้นทุนการเพาะปลูกผักและดอกไม้ในโรงเรือน ส่งผลให้เกิดการปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นลำดับ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในยูเครนได้เป็นปัจจัยเร่งให้รัฐบาลสนับสนุนพลังงานทดแทนเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
การค้าระหว่างประเทศ
เนเธอร์แลนด์ส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย คิดเป็นร้อยละ 1.1 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และนำเข้าร้อยละ 3.5 โดยแม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่เนื่องจากการนำเข้าส่วนหนึ่งประกอบด้วยพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน แร่โลหะ ทองแดง และวัตถุดิบพื้นฐานต้นน้ำเพื่อการผลิตสินค้าชนิดอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จึงส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศ ขณะเดียวกัน สินค้านำเข้าของเนเธอแลนด์จากยูเครน ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าเกษตร เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน สถานการณ์ในยูเครนจึงส่งผลให้เนเธอแลนด์ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหารเด็ก มาการีน บิสกิต ด้วย
นอกจากนี้ ท่าเรือรอตเตอร์ดัม ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรของอียูต่อรัสเซียด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นจุดรับ-ส่งสินค้าที่สําคัญในการกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ ในอียู โดยเฉพาะสินค้าการเกษตร
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงิน
มาตรการลงโทษของ EU ต่อรัสเซีย ส่งผลให้สถาบันการเงินของเนเธอแลนด์ เช่น กองทุนรวม สถาบันการลงทุน ระงับธุรกรรมการเงินกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงินในเนเธอแลนด์ยังไม่มากนัก เนื่องจากหลายแห่งได้ลดการลงทุนและจำกัดขอบเขตการทำธุรกิจตั้งแต่สถานการณ์แคว้นไครเมีย เมื่อปี 2557 และปัจจุบันมีการลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินในรัสเซียเพียงร้อยละ 0.2
แนวโน้มทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์
หน่วยงาน Bureau for Economic Policy Analysis (CPB) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายสภาพภูมิอากาศเนเธอร์แลนด์ ได้ออกรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ว่า กรณีสถานการณ์ในยูเครนยืดเยื้อ เศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์จะชะลอตัวเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ CPB คาดว่า ปี 2565 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงถึงร้อยละ 8 ด้านธนาคารเพื่อการเกษตร Rabo Bank คาดว่า สถานการณ์ในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์และ EU อย่างมาก โดยปี 2565 เศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์จะเติบโตได้เพียงร้อยละ 0.7 และจะค่อยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.2 ในปี 2566
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก
เรียบเรียง: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์