จากการประชุม Global Space and Technology Convention ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา นาย Gan Kim Yong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) เผยว่า รัฐบาลสิงคโปร์มุ่งลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถและสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และสังคมของสิงคโปร์ การเติบโตของภาคเทคโนโลยีอวกาศทั่วโลกและภูมิภาค ซึ่งตั้งแต่ปี 2503 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เริ่มต้นการสํารวจอวกาศ ซึ่งสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาและปรับตัวไปอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตาม จากบทความที่เผยแพร่โดย กลุ่ม Tech Collective SEA แหล่งข้อมูลออนไลน์ด้านเทคโนโลยี ระบุว่า จีน ญี่ปุ่นและอินเดีย ถือเป็นประเทศชั้นนําของเอเชียในด้านโครงการวิจัยอวกาศที่นําโดยภาครัฐ ภาคเทคโนโลยีอวกาศในสิงคโปร์ และการสนับสนุนจากรัฐบาลสิงคโปร์
.
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศในสิงคโปร์เติบโตอย่างสูงและต่อเนื่อง โดยมีวิสาหกิจมากกว่า 50 แห่ง และจัดจ้างผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 1,800 อัตรา วิสาหกิจเหล่านี้ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคมนาคมที่เกี่ยวข้องในสิงคโปร์ เช่น การบินและการเดินเรือ ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวัน อาทิ การใช้ระบบกําหนด ตําแหน่งทั่วโลก (GPS) สําหรับการเดินทาง ขนส่งและการจัดส่งพัสดุ นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งสํานักงานกิจการอวกาศ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (Office for Space Technology and industry. Singapore OSTIn) ตั้งแต่ปี 2556 สําหรับเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงธุรกิจระดับโลก สตาร์ทอัพท้องถิ่น หน่วยงานการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาระบบนิเวศที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของสิงคโปร์ในด้านการวิจัยและเทคโนโลยีให้แข็งแกร่ง ตัวอย่างความสําเร็จในสิงคโปร์ ได้แก่
.
- บริษัท Addvalue ซึ่งเป็น SME ของสิงคโปร์ ได้พัฒนาระบบถ่ายทอดข้อมูลระหว่างดาวเทียม (InterSatellite Data Relay System – IDRS) เพื่อเปิดใช้งานดาวเทียมแบบทันที (real-time) ภายในระยะเวลา 1 ปี บริษัท มีลูกค้าเชิงพาณิชย์ 7 ราย และมีแผนที่จะติดตั้งดาวเทียมกว่า 240 ดวง
- นักวิจัยที่หอดูดาวโลกของมหาวิทยาลัย Nanyang Technological University (NTU) สิงคโปร์ ได้ใช้ภาพถ่ายเรดาร์จากดาวเทียมเพื่อพัฒนาแผนที่ความเสียหายหลังจากการปะทุของภูเขาไฟในตองกาครั้งล่าสุดของภูมิภาค ในการระบุความเสียหายต่ออาคารโครงสร้างพื้นฐานและพืชพรรณได้ และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนฟื้นฟูเมืองอย่างเป็นระบบ
.
กลยุทธ์รัฐบาลสิงคโปร์ในการพัฒนาภาคเทคโนโลยีอวกาศปี 2565
สิงคโปร์กําหนดกลยุทธ์ 3 ประเด็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศ ดังนี้
.
1. สํานักงานกิจการอวกาศเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (Office for Space, Technology and Industry. Singapore – OSTIn) ร่วมกับสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (National Research Foundation – NRE) ลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ความสามารถและศักยภาพด้านอวกาศจํานวน 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ (Space Technology Development Programme – STDP) เช่น สํานักงาน OSTIn สนับสนุนความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย NUS NTU และวิสาหกิจในสิงคโปร์ ได้แก่ บริษัท ST Engineering (รัฐวิสาหกิจด้านการบินและการคมนาคมของสิงคโปร์) บริษัท Aliena และบริษัท Lighthaus เพื่อพัฒนาโซลูชั้นดาวเทียม Very Low Earth Orbit (VLEO) ที่มีวงโคจรใกล้โลกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ดาวเทียมสามารถส่งมอบความสามารถที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพ
.
2. รัฐบาลสิงคโปร์ร่วมมือกับวิสาหกิจสิงคโปร์ เพื่อสร้างความสามารถด้านเทคนิคในเชิงลึก สนับสนุนการแปลงงานวิจัยและเทคโนโลยีให้ใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์ และส่งเสริมให้บริษัทแข่งขันได้ในระดับสากล เช่น สํานักงาน OSTIn สนับสนุนบริษัท SpeQtral (แยกตัวมาจาก Center of Quantum Technologies ของมหาวิทยาลัย NUS) เปิดตัวดาวเทียมแสดงโซลูชัน Quantum Key Distribution (OKD) ซึ่งจะช่วยให้ส่งข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารที่มีอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีควอนตัม รวมทั้งแสวงหาพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ใกล้เคียงกันอยู่เสมอ เช่น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 สํานักงาน OSTIn ได้ลงนามในแถลงการณ์เจตนารมณ์เชิงกลยุทธ์กับบริษัท Amazon Web Services (AWS) ซึ่งมีสํานักงานภูมิภาคในสิงคโปร์ เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมด้านอวกาศในสิงคโปร์ ธุรกิจอวกาศในสิงคโปร์สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่หลากหลายของบริษัท AWS ในด้านการประมวลผลแบบคลาวด์เพื่อการใช้งานด้านอวกาศ
.
3. ในด้านการพัฒนาบุคลากร สิงคโปร์จะร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการเดินทางในอวกาศ
(1) เมื่อเดือนตุลาคม 2560 สํานักงาน OSTIn ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจํานงกับหน่วยงาน European
Space Agency ของสหภาพยุโรปเพื่อส่งเสริมความร่วมมือว่าด้วยข้อริเริ่มด้านเทคโนโลยีอวกาศและ
โทรคมนาคม
(2) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 สํานักงาน OSTIn ได้ลงนามเพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจกับสํานักงานการ
บินอวกาศแห่งฝรั่งเศส (French Space Agency)
(3) ปี 2564 OSTIn ได้ทํางานร่วมกับพันธมิตรหลายราย เพื่อจัดโครงการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ
นวัตกรรม วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics –
STEM) รวมถึงโปรแกรม “Spacelab” ที่นักศึกษาสิงคโปร์ใช้เวลาหลายเดือนในการออกแบบการทดลองแรง
โน้มถ่วงต่ำ ซึ่งหนึ่งในการทดลองได้รับเลือกให้เปิดตัวสู่สถานีอวกาศนานาชาติในเดือนพฤษภาคม 2565
.
จากข้อมูลข้างต้นเห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีอวกาศนอกจากจะช่วยสํารวจดาราจักร (galaxy) ที่อยู่ห่างไกลแล้ว ยังมีความสําคัญต่อกิจกรรมพื้นฐานในการดํารงชีวิตของสังคมโลกในปัจจุบัน เช่น เทคโนโลยี GPS การสื่อสาร การประยุกต์ใช้การ จัดการภัยพิบัติ การเกษตร การท่องเที่ยว การจัดการข้อพิพาทเรื่องพรมแดน และความมั่นคง จากข้อมูลของสื่อ CNBC ระบุว่าเมื่อปี 2564 ปริมาณการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีอวกาศทั่วโลกสูงถึง 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 จากปี 2563 โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ได้สร้างสถิติใหม่ที่การลงทุนสูงถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในโครงการสําคัญของบริษัท Sierra Space บริษัท SpaceX ของนักธุรกิจนาย Elon Musk และบริษัท Planet Labs จํานวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอวกาศทั่วโลกมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2583
.
สําหรับประเทศไทย ในปี 2564 สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ได้จัดทําโครงการพัฒนา วิสาหกิจเริ่มต้นที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกด้านเศรษฐกิจอวกาศ หรือ “Space Economy : Lifting Off” ร่วมกับโครงการภาคีความร่วมมืออวกาศไทย (Thai Space Consortium) เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอวกาศและพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีอวกาศในประเทศไทย รวมถึงผลักดันให้เกิดการนําประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศไปพัฒนาประเทศ โดยสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกด้านเศรษฐกิจอวกาศ ผลักดันให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อนําออกสู่ตลาดและสามารถขยายธุรกิจในประเทศไทยสู่ระดับสากล
.
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะสตาร์ทอัพสามารถพิจารณาเข้าร่วมโครงการดังกล่าวในประเทศไทย รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องในสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ และสร้าง เครือข่ายระหว่างกันได้ ซึ่งอาจต่อยอดไปสู่การร่วมทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพ Startup ของสิงคโปร์ เพื่อใช้ประโยชน์จากการที่สิงคโปร์ ซึ่งมีความพร้อมความเชี่ยวชาญ และสนใจที่จะพัฒนาด้านเทคโนโลยีอวกาศอย่างจริงจัง
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
.
อ้างอิง :
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
– https://www.cnbc.com/2022/01/18/space-investing-94-report-companies-hit-record-14point5billion-in-2021.html https://www.mti.gov.sg/Newsroom/Speeches/2022/02/Speech-by-Minister-Gan-Kim-Yong-atthe-14th-Global-Space-and-Technology-Convention https://www.sginnovate.com/news/5-space-tech-startups-sea-paving-way-beyond https://www.straitstimes.com/singapore/environment/singapore-government-to-invest-150million-in-space-tech-rd