นาย Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างองค์กร SingHealth ซึ่งเป็นวิสาหกิจด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ (ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์) กับองค์กร SGInnovate ซึ่งเป็นวิสาหกิจด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่จัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทเอกชน ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์มาพัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพ
.
ภาคธุรกิจ Healthcare ในเอเชีย-แปซิฟิกยังเผชิญความท้าทาย คือ (1) ความปลอดภัยของผู้ป่วยจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า ปัญหาการดูแลที่ไม่เพียงพอและไม่ปลอดภัยยังคงพบได้ทั่วไปในเอเชียโดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย 60% ของการเสียชีวิตเกิดจากการรักษาพยาบาลด้อยคุณภาพข้อผิดพลาดด้านยาและค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงถึง 42,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี (2) การรักษาผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์เป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับโรงพยาบาลในภูมิภาค โดยเฉพาะจากสถานการณ์ COVID-19 ผลการศึกษาพบว่า 2 ใน 3 ของแพทย์และผู้มีอำนาจตัดสินใจ 69% เห็นว่าแพทย์และผู้ดูแลผู้ป่วยทำงานหนักเกินไปในระหว่างกะส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าและหมดไฟ (3) บุคลากรทางการแพทย์ยังทำงานที่ใช้ระบบอัตโนมัติน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพนักงานบริการในภาคอุตสาหกรรมอื่นพยาบาลต้องจัดการงานธุรการที่เป็นแบบ manual ส่งผลให้การส่งต่อข้อมูลสำคัญของผู้ป่วยไปยังสมาชิกในทีมดูแลคนอื่นๆ ไม่มีประสิทธิภาพ
.
AI ระบบอัตโนมัติ รวมถึงอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) สามารถปรับปรุงระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปี 2565 เกือบ 80% ของผู้บริหารโรงพยาบาลวางแผนที่จะทำให้ระบบการทำงานเป็นอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทานสะดวกในการค้นหาอุปกรณ์ที่สำคัญ สินทรัพย์ทางการแพทย์ ปรับปรุงห้องฉุกเฉินและห้องผ่าตัดให้ดีขึ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพตารางทำงานของพนักงาน รวมทั้งสามารถนำระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติมาใช้ในการเคลื่อนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ในโรงพยาบาลให้กับทีมและสถานที่ที่ถูกต้องเหมาะสมในเวลาที่จำเป็นต้องใช้ ช่วยให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่จำเป็นมากขึ้น
.
โอกาสผู้ประกอบการไทย
.
ในปัจจุบัน มูลค่าของข้อมูลมีความสำคัญต่อธุรกิจเเละผู้ประกอบการ AI ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค ภาครัฐเเละภาคเอกชน ผ่านการคาดการณ์ล่วงหน้าของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีความสามารถในการทำภารกิจธรรมดาทั่วไปและเพิ่มความเร็วให้กับภารกิจที่ซับซ้อนได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเพื่อให้ได้ผลการค้นหาแบบเรียลไทม์
.
การวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ให้ถูกต้องนั้น แพทย์แต่ละคนต้องผ่านการฝึกฝนเป็นเวลาหลายร้อยจนถึงหลายหมื่นชั่วโมงในสาขาเฉพาะทางที่ตนเลือก เพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้สามารถวิเคราะห์อาการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ แต่ระบบ AI ทางการแพทย์สามารถฝึกฝนจากข้อมูลที่เทียบเท่ากับการฝึกฝนนับล้านชั่วโมงเสมือนการเรียนรู้จากประสบการณ์ของหมอหลายพันคนพร้อมกันได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในเวลาที่รวดเร็วกว่ามาก ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่าในบางกรณี AI จะสามารถวิเคราะห์โรคจากอาการได้แม่นยำใกล้เคียงกับเเพทย์ผู้เฉพาะทางเป็นได้ ผู้ประกอบการไทยอาจใช้โอกาสนี้ในการศึกษา พัฒนาเเละเเลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยี AI กับพันธมิตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเเละศักยภาพของธุรกิจไทยให้มีความยั่งยืนเเละมั่นคงมากยิ่งขึ้นต่อไป
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์