Saturday, June 7, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

พลังงานหมุนเวียนแซงหน้าเป็นพลังงานหลักของสหภาพยุโรป

25/11/2021
in ทันโลก, ยุโรป
0
พลังงานหมุนเวียนแซงหน้าเป็นพลังงานหลักของสหภาพยุโรป
1
SHARES
253
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับรองรายงานสถานะของพลังงานในสหภาพยุโรปประจำปี 2564 (State of the Energy Union Reports for 2021) ซึ่งเป็นรายงานติดตามความคืบหน้าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของสหภาพยุโรป หลังจากที่ออกแผน European Green Deal มาได้เกือบ 2 ปี ถึงแม้ว่าแนวโน้มต่าง ๆ จะดีขึ้น แต่ยังจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามให้มากขึ้นอีกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนลงอย่างน้อยร้อยละ 55 ภายในปี 2573 และความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และในปีหน้านี้ จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับแผนการฟื้นฟูระยะยาวหลัง COVID-19 โดยรายงานดังกล่าว เป็นการวิเคราะห์นโยบายด้านพลังงานและสภาพอากาศทั้ง 5 เสาหลักของสหภาพพลังงาน (Energy Union) ประกอบด้วย (1) เร่งการกำจัดคาร์บอนผ่านตลาดซื้อขายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (EU Emission Trading System – ETS) และพลังงานหมุนเวียน (2) เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน (energy efficiency) (3) เพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยด้านพลังงาน (energy security and safety) (4) การเสริมความแข็งแกร่งตลาดภายใน (5) การวิจัย นวัตกรรม และความสามารถในการแข่งขัน รวมไปถึงการบ่งชี้ขอบเขตการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการตามข้อ European Green Deal

.

รายงานนี้ แสดงให้เห็นว่าในปี 2563 เป็นครั้งแรกที่พลังงานหมุนเวียน (renewable energy) กลายเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าลำดับแรกในสหภาพยุโรปแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน คิดเป็นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ร้อยละ 37 ในปัจจุบัน ประเทศของสหภาพยุโรปจำนวน 9 ประเทศ ได้เลิกใช้ถ่านหินแล้ว และอีก 13 ประเทศให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้ถ่านหิน และอีก 4 ประเทศกำลังพิจารณากำหนดเส้นเวลาที่เป็นไปได้

.

สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ EU27 เมื่อเทียบกันระหว่างปี 2562 กับปี 2563 พบว่า มีการลดลงเกือบร้อยละ 10 ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยคาดว่ามาจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 และเมื่อเทียบกับปี 2533 ก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมแล้ว ลดลงรวมถึงร้อยละ 31 ในขณะที่การใช้พลังงานขั้นต้น (Primary energy consumption) ลดลงร้อยละ 1.9 และการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย (final energy consumption) ลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ตาม ตัวเลขทั้งสองยังอยู่เหนือเส้นที่ควรจะเป็นสำหรับการบรรลุเป้าหมายของสหภาพยุโรปในปี 2563 และ 2573 และความพยายามในการแก้ปัญหาจำเป็นต้องแก้ไขทั้งในระดับประเทศสมาชิกและระดับสหภาพยุโรป โดยในปี 2563 มีการให้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการใช้พลังงานโดยรวมลดลง ในขณะที่เงินอุดหนุนในส่วนของพลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในปี 2563

.

การที่พลังงานหมุนเวียนในสหภาพยุโรปเริ่มกลายมาเป็นแหล่งพลังงานหลักของภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงความตระหนักในด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น โดยพยายามที่จะลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานต่างประเทศ และหันมาผลิตพลังงานใช้ภายในได้อย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้ มีองค์กรและผู้คนจำนวนไม่น้อยในไทยที่เริ่มหันมาให้ความสนใจในด้านพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และได้มีการลงทุนที่หลากหลาย โดยเฉพาะด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีการติดตั้งในอัตราถึงร้อยละ 60 ของอาเซียน ซึ่งไม่เพียงแต่ในตัวเมือง แต่ยังมีการกระจายสู่พื้นที่ชนบทมากขึ้น เช่น โครงการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับโรงพยาบาลรัฐ นอกจากนี้ กระบี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการเป็นเมืองต้นแบบของพลังงานหมุนเวียนได้อย่างสมบูรณ์ถึง 100% ทุกๆ ชั่วโมงภายในปี 2569 ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในดึงดูดนักลงทุนและวิจัยจากสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเดนมาร์ก ไอร์แลนด์ และเยอรมนี ที่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลมได้มากที่สุด เพื่อร่วมพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบี่ และจังหวัดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปยังควรติดตามกฎหมายภาษีด้านพลังงาน (ETD) และการจัดตั้งระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยคาร์บอน (ETS) ที่เข้มงวดขึ้น และควรศึกษาการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการค้า ควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคต

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา

Previous Post

เยอรมนีออกนโยบายส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง

Next Post

สปป. ลาว โอกาสที่ไม่ควรพลาดของนักขุดดิจิตอล

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
สปป. ลาว โอกาสที่ไม่ควรพลาดของนักขุดดิจิตอล

สปป. ลาว โอกาสที่ไม่ควรพลาดของนักขุดดิจิตอล

Post Views: 1,264

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X