Monday, June 9, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

บริษัทสวิสเซอร์แลนด์เปิดตัวโรงงานเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไอซ์แลนด์

08/10/2021
in ทันโลก, ยุโรป
0
บริษัทสวิสเซอร์แลนด์เปิดตัวโรงงานเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไอซ์แลนด์
1
SHARES
405
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 บริษัท Climeworks ของสวิตฯ ร่วมกับ บริษัท Carbfix และ บริษัท ON Power ของไอซ์แลนด์ ได้เปิดตัวโรงงาน Orca ซึ่งมีความสามารถในการดักจับ CO2 จากอากาศและกักเก็บไว้ใต้ดินเป็นการถาวรขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งนี้ การจัดตั้งโรงงาน Orca ที่ไอซ์แลนด์นอกจากจะเป็นเพราะสภาพทางธรณีวิทยาที่เหมาะสมแล้ว ไอซ์แลนด์ยังเป็นผู้บุกเบิกด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานที่นำมาใช้ในโรงงาน Orca ก็มาจากพลังงานหมุนเวียนที่ได้จากโรงงานพลังงานความร้อนใต้พิภพ Hellisheidi ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน

.

การก่อสร้างโรงงาน Orca เริ่มเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดยติดตั้งเป็นหน่วยย่อยของเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาต่อกันในลักษณะของหน่วยสะสมขนาดเท่าตู้สินค้าที่เรียงซ้อนกันเป็นแผง ซึ่งช่วยทำให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใน 15 เดือน โรงงานดังกล่าวจะดำเนินการแยกก๊าซ CO2 ออกจากอากาศ โดยใช้ตัวกรองพิเศษที่ออกแบบโดย บริษัท Climeworks ด้วยเทคโนโลยีดักจับก๊าซ CO2 (Direct Air Capture: DAC) แล้วนำก๊าซ CO2 ที่ได้ไปผ่านการเร่งกระบวนการแปลงเป็นแร่ธาตุ (mineralization) ที่พัฒนาโดย บริษัท Carbfix ด้วยการผสมน้ำและอัดเข้าไปในหินบะซอลต์ที่ความลึก 800 – 2,000 เมตร ใต้พื้นดิน ซึ่งด้วยปัจจัยหลาย ๆ ประการประกอบกัน ทั้งแรงดัน ความชื้น และแร่ธาตุ จึงทำให้ก๊าซ CO2 ฝังอยู่ในหินเช่นนั้นได้เป็นเวลาหลายล้านปี โดยไม่มีโอกาสที่ก๊าซดังกล่าวจะรั่วไหลจากใต้ดินกลับเข้าสู่อากาศได้ แม้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดก็ตาม

.

โรงงาน Orca สามารถที่จะดักจับ CO2 จากอากาศได้มากถึง 4,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประชากรในยุโรปจำนวน 600 รายต่อปี ซึ่งแม้จะไม่มากนักเมื่อเทียบกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์

.

ตามรายงานของทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency – IEA) ปัจจุบันมีโรงงานที่ใช้เทคโนโลยี DAC จำนวน 15 แห่งทั่วโลก ซึ่งสามารถดักจับก๊าซ CO2 ได้กว่า 9,000 ตันต่อปี ซึ่ง คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change – IPCC) เชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น หากจะต้องจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส โดยการดักจับก๊าซ CO2 จากอากาศทุก 1 1 ตัน จะเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณ 1 ตัน เช่นกัน

.

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายยังคงมีคำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีการดักจับก๊าซ CO2 ของ บริษัท Climeworks ซึ่งการศึกษาเมื่อปี 2563 พบว่า การดักจับก๊าซ CO2 จำนวน 100 ล้านตัน หรือเท่ากับ 1/400 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกใน 1 ปี จะต้องใช้พลังงานหมุนเวียนจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่สหรัฐฯ ผลิตได้ทั้งหมดในปี 2561 และใช้พื้นที่สำหรับติดตั้ง DAC มากกว่าประเทศศรีลังกาทั้งประเทศ รวมทั้งยังมีข้อสงสัยอีกหลายประการซึ่งยังต้องใช้เวลาในการประเมิน อาทิ ความปลอดภัย ความสมดุลของก๊าซ CO2 และความคุ้มค่าของราคา เป็นต้น

.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวทางของโลกภายหลังยุค COVID-19 จะให้ความสำคัญกับมิติด้านการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่ไทยเร่งผลักดันทั้งในบริบทภายในประเทศและระหว่างประเทศ ผ่านการเป็นประธานการประชุม BIMSTEC และ APEC ตั้งแต่ปลายปี 2564-2565 ดังนั้น ในส่วนของผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ควรเร่งที่จะพัฒนาและปรับเปลี่ยนแนวทางการผลิตในโรงงาน โดยอาจพิจารณาศึกษาการนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ จากประเทศพันธมิตรมาปรับใช้ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ตามแผนงานที่ไทยวางไว้ในปี 2608 – 2613 (ค.ศ. 2065 – 2070) รวมไปถึงเพื่อผลประโยชน์ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยในอนาคตต่อไปด้วยเช่นกัน

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น

.

ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.reuters.com/business/environment/worlds-largest-plant-capturing-carbon-air-starts-iceland-2021-09-08/?taid=613889a56edf5a000104be72&utm_campaign=trueanthem&utm_medium=trueanthem&utm_source=twitter

Previous Post

ส่องแผนยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ สู่การเป็น global vaccine hub

Next Post

ข่าวเศรษฐกิจเวียดนามระหว่างวันที่ 16 – 30 กันยายน 2564

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
ข่าวเศรษฐกิจเวียดนามระหว่างวันที่ 16 – 30 กันยายน 2564

ข่าวเศรษฐกิจเวียดนามระหว่างวันที่ 16 – 30 กันยายน 2564

Post Views: 1,081

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

09/06/2025
สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X