1. อาบูดาบีกําหนดเปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ําที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคในปีนี้
.
อาบูดาบีกําหนดเปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ําแห่งชาติ (The National Aquarium – TNA) ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ําที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคภายในปีนี้ โดยตั้งอยู่ที่กรุงอาบูดาบี และมีแผนจะจัดแสดงสัตว์น้ําหลากหลายชนิด เช่น ฉลามเสือ ฉลามเสือดาว ฉลามครีบดํา ปลาโรนันหัวเสียมยักษ์ กระเบนจมูกวัว กระเบนนกอินทรี และกระเบนน้ําจืด โดย TNA จะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในภูมิภาคที่จัดแสดงปลาฉลามหัวบาตร (Bull Shark) ซึ่งถือเป็นฉลามสายพันธุ์ที่ดุร้ายที่สุด นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ TNA ยังได้ลงนามความร่วมมือกับสํานักงานสิ่งแวดล้อมอาบูดาบี (EAD) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 โดยมีระยะเวลาตามข้อตกลง 5 ปี ในการช่วยสร้าง หรือดําเนินโครงการระดับใหญ่เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์สัตว์ป่าในรัฐอาบูดาบี
.
2. บริษัท Masdar ของยูเออี ได้เริ่มก่อสร้างแผงพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ําแห่งแรกในอินโดนีเซีย
.
บริษัท Masdar ของยูเออี ได้ร่วมทุนกับ บริษัท PT PJBI ของอินโดนีเซีย ในการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นการร่วมมือด้านงานพลังงานหมุนเวียนครั้งแรกระหว่างยูเออีและอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเริ่มใช้งานได้ในไตรมาส 4 ของปี 2565 โครงการดังกล่าวมีจุดเด่น คือ การสร้างแผงพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ําแห่งแรกในอินโดนีเซียบริเวณอ่างเก็บน้ํา Cirata ในเขต West Java ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 145 เมกะวัตต์ และถือเป็นโรงงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพียงพอสําหรับ 50,000 ครัวเรือน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 214,000 ตันต่อปี และสามารถสร้างงานให้กับประชากรอินโดนีเซียกว่า 800 ตําแหน่งอีกด้วย
.
โครงการนี้ นับเป็นเป็นจุดเริ่มต้นของ ความร่วมมือที่จะส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งขณะนี้ ยูเออีมีความมุ่งมั่นในการร่วมมือพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานสะอาดกับทุกประเทศทั่วโลกอีกด้วย
.
3. ยูเออีเผยแพร่ข้อมูลการจัดทําบัตร Emirates ID รูปแบบใหม่
.
หน่วยงานของยูเออีได้เผยแพร่ข้อมูลการจัดทําบัตร Emirates ID รูปแบบใหม่ โดยคุณลักษณะสําคัญของบัตรรูปแบบใหม่ ได้แก่ (1) เพิ่มระดับการป้องกันข้อมูลภายในบัตร โดยจะสามารถอ่านข้อมูลผ่านระบบ E-link ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ของยูเออีเท่านั้น (2) บัตรทําจากวัสดุ polycarbonate ทําให้บัตรมีความคงทน และมีอายุการใช้งานถึง 10 ปี (3) การใช้เทคโนโลยีภาพสามมิติทําให้สามารถตรวจสอบบัตรด้วยวันเกิดของผู้ถือบัตร (4) เทคโนโลยีการระบุตัวตนขั้นสูง โดยตัวชิพจะสามารถเก็บข้อมูลและปกป้องข้อมูลได้มากขึ้น และ (5) เพิ่มข้อมูลรหัสบนบัตร เช่น วิชาชีพ หน่วยงานออกบัตร และ สัญชาติ
.
จะเห็นได้ว่า ยูเออีได้ให้ความสำคัญด้านธรรมชาติ และพลังงานผ่านโครงการต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การเป็นประเทศที่ใช้พลังงานสะอาดแบบเต็มตัว และปล่อยเกิดก๊าซคาร์บอนให้ต่ำกว่า 60% ภายในปี 2593 ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยอาจร่วมศึกษาและวิจัยการฟื้นฟูและอนุรักษ์สัตว์น้ำกับยูเออี เพื่อนำมาพัฒนาระบบนิเวศและอนุรักษ์สัตว์น้ำไทย นอกจากนี้ การที่ยูเออีลงทุนสร้างแผงพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ําแห่งแรกในอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความตื่นตัวด้านพลังงานยั่งยืนของประเทศในอาเซียน ดังนั้น ผู้ประกอบการด้านแผงพลังงานแสงอาทิตย์ อาจศึกษาโมเดล การดำเนินงานจากอินโดนีเซีย หรือดึงดูดการลงทุนจากยูเออี ซึ่งในขณะนี้ ไทยได้มีการลงทุนในโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร เพื่อชูเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดอุบลราชธานี การประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังยูเออี เพื่อให้ทราบถึงศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของไทย จะสามารถนำเปิดโอกาสการค้า การลงทุนสำหรับไทยได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังควรติดตามการจัดงานมหกรรม Expo 2020 Dubai ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ โดยมีแนวคิดด้านพลังงานทดแทนของยูเออีเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญในงานครั้งนี้ ซึ่งได้สร้างความร่วมมือกับต่างประเทศมากมาย เช่น โรงงานผลิตแสงไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ “Noor Abu Dhabi” ร่วมกับญี่ปุ่น และจีน หรือโครงการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 กิกะวัตต์ ร่วมกับซาอุดิอาระเบีย เพื่อศึกษาแนวคิด และสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ ให้มุ่งสู่การใช้พลังงานยั่งยืนได้ในอนาคต
.
สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี