Sunday, June 8, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

สภาวะเศรษฐกิจอินโดนีเซียไตรมาส 2/2564

16/08/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
24
SHARES
659
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เศรษฐกิจอินโดนีเซียไตรมาส 2/2564

.

1. GDP ในไตรมาส 2/2564 ขยายตัวร้อยละ 7.7 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 6.72 และร้อยละ 3.31 ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในครึ่งแรกของปี 64 อยู่ที่ร้อยละ 3.10 โดย GDP ณ ราคาปัจจุบัน (current price) มีมูลค่า 290.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ GDP ณ ราคาคงที่ (constant price) โดยคำนวนจากปีฐาน 2553 มีมูลค่า 192.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 17 ปี และเป็นการขยายตัวครั้งแรกหลังเศรษฐกิจอินโดนีเซียหดตัว 4 ไตรมาสติดต่อกัน

.

2. ปัจจัยสนับสนุนสำคัญของเศรษฐกิจในช่วงดังกล่าว ได้แก่ (1) การควบคุมโรคโดยใช้มาตรการ PPKM Micro ที่พยายามสร้างสมดุลระหว่างมาตรการสาธารณสุขและเศรษฐกิจ โดยยังอนุญาตให้มีการเดินทางข้ามจังหวัดและกระจายวัคซีนของอินโดนีเซีย (2) การจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ (National Economic Recovery Program – PEN) ในด้านสาธารณสุข การคุ้มครองทางสังคม โครงการเร่งด่วน ธุรกิจ MSME และการให้สิทธิประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งปรับเพิ่มงบประมาณเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากเดิม 48.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 51.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วร้อยละ 41.02 และ (3) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะคู่ค้าหลักของอินโดนีเซียซึ่งส่งเสริมธุรกิจส่งออกของอินโดนีเซีย

.

3. ธุรกิจและอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2564 อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ (1) ธุรกิจขนส่งและคลังสินค้า เติบโตสูงสุดที่ร้อยละ 25.10 หลังจากที่หดตัวถึงร้อยละ 13.12 ในไตรมาส 1/2564 (2) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เติบโตร้อยละ 21.58 หลังจากหดตัวร้อยละ 7.6 ในไตรมาส 1/2564 (3) ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ เติบโตร้อยละ 11.62 (4) การค้า เติบโตร้อยละ 9.44 จากที่หดตัวร้อยละ 1.23 ในไตรมาส 1/2564 (5) ไฟฟ้าและก๊าซ เติบโตร้อยละ 9.09 (6) ธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตในภาพรวม เติบโตร้อยละ 6.58 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2564 ที่หดตัวร้อยละ 1.38 โดยธุรกิจเกี่ยวกับถ่านหิน น้ำมันและก๊าซเติบโตร้อยละ 3.37 เพิ่มจากไตรมาส 1/2564 ที่หดตัวร้อยละ 7.70 และ (7) ธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองแร่ เติบโตร้อยละ 5.22 อนึ่ง ธุรกิจที่เติบโตน้อยที่สุดในไตรมาสนี้คือเกษตรกรรม ซึ่งเติบโตที่ร้อยละ 0.38 ลดลงจากร้อยละ 3.33 ในไตรมาสที่ 1/2564

.

4. การบริโภคครัวเรือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.93 โดยมีดัชนีค่าความเชื่อมันของผู้บริโภคในไตรมาสนี้อยู่ที่ 82.14

.

5. การส่งออกและการนำเข้าสินค้าและบริการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.78 และ 31.22 ตามลำดับ โดยการค้าระหว่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นคือ แร่พลังงาน เหล็กและเหล็กกล้า และเครื่องจักรกลไฟฟ้าและอุปกรณ์ และการนำเข้าสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นคือเครื่องจักรกลการบิน เครื่องจักรไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า และพลาสติก

.

5.1 การค้าระหว่างไทย-อินโดนีเซียในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 มีมูลค่า 8.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปยังอินโดนีเซียมูลค่า 4.119 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้าจากอินโดนีเซียมูลค่า 4.179 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯทำให้ไทยขาดดุลการค้า 60.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

.

5.2 สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังอินโดนีเซีย 5 อันดับแรก ในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 ได้แก่ (1) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (2) เม็ดพลาสติก (3) เคมีภัณฑ์ (4) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และ (5) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ

.

5.3 สินค้าที่ไทยนำเข้าจากอินโดนีเซีย 5 อันดับแรก ในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 ได้แก่ (1) น้ำมันดิบ (2) ถ่านหิน (3) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (4) เคมีภัณฑ์ และ (5) ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

.

6. การลงทุน มีมูลค่า 15.4 พันล้าน USD ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 ประกอบด้วยการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่า 7.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตขึ้นร้อยละ 16.2 และการลงทุนภายในประเทศ (DDI) มูลค่า 7.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเติบโตขึ้นร้อยละ 12.7 ทำให้มูลค่าการลงทุนในครึ่งแรกของปี 64 อยู่ที่ 30.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 49.2 ของเป้าหมายมูลค่าการลงทุนที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียตั้งไว้สำหรับปี 64 โดยธุรกิจที่มีการลงทุนมากที่สุด ทั้งจากภายในและจากต่างประเทศ 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างสำนักงานและโรงงาน (2) การผลิตเหล็กกล้าและสินค้าจากเหล็กกล้า (3) ธุรกิจขนส่งคลังสินค้าและการสื่อสารโทรคมนาคม

.

6.1 ผู้ที่เข้ามาลงทุนในอินโดนีเซียมากที่สุด 5 ลำดับแรกในไตรมาสที่ 2/2564 ได้แก่ (1) สิงคโปร์ 21.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 26.4 (2) ฮ่องกง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 18.1 (3) เนเธอร์แลนด์ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 13.8 (4) ญี่ปุ่น 700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 9 และ (5) จีน 6 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 8 โดยธุรกิจที่ได้รับ FDI มากที่สุด 3 อันดับแรกคือ (1) การผลิตเหล็กกล้าและสินค้าจากเหล็กกล้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (2) เหมืองแร่ (3) ธุรกิจขนส่งคลังสินค้าและการสื่อสารโทรคมนาคม โดยมีการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดในจังหวัดชวาตะวันตกมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 19.8 ของการลงทุนทั้งหมดในไตรมาสนี้

.

แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียในระยะต่อไป

.

แม้เศรษฐกิจอินโดนีเซียในไตรมาสที่ 2/2564 จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการเติบโตในไตรมาสที่ 3/2564 น่าจะหดตัวลง โดยเฉพาะการบริโภคในครัวเรือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหญ่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน (PPKM Darurat) เกือบตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม 2564 โดยปัจจุบันรัฐบาลอินโดนีเซียปรับการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 3/2564 จากเดิมร้อยละ 5.7 เหลือร้อยละ 5.4 และปรับการคาดการณ์สำหรับปี 2564 เป็นระหว่างร้อยละ 3.7 – 4.5 อย่างไรก็ดีรัฐบาลอินโดนีเซียยังหวังว่าหากสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ (active cases) ให้ไม่เกิน 2 แสนคนในช่วงก่อนไตรมาสที่ 4/2564 ได้ การเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 4/2564 น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของธนาคารกลางอินโดนีเซียที่เห็นว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียในปี 64 น่าจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.8

.

รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายว่าจะได้รับวัคซีนเพิ่มจากต่างประเทศในเดือนสิงหาคม 2564 อย่างน้อย 45 ล้านโดสจากแหล่งต่าง ๆ และมีแผนการฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2564 เดือนละ 70 ล้านโดส แต่ปัจจุบันอินโดนีเซียยังมีวัคซีนสำรองไม่เพียงพอฉีดให้ได้ตามเป้าหมายข้างต้น รวมถึงตั้งแต่วันที่ 1-8 สิงหาคม 2564 อินโดนีเซียสามารถฉีดวัคซีนเฉลี่ยได้ประมาณวันละ 8 แสนโดส

.

ปัจจุบันรัฐบาลอินโดนีเซียได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดบางส่วน โดยให้ธุรกิจที่สำคัญทั้งด้านการส่งออกและการเงิน รวมถึง MSMEs สามารถดำเนินการได้ภายใต้ข้อกำหนดด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด และขอให้ภาคธนาคาร สถาบันการเงิน กระจายเงินกู้ยืมแก่ธุรกิจต่างเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลมีความมุ่งหวังว่าระบบ Online Single Submission (OSS) เวอร์ชั่นใหม่ ภายใต้กฎหมาย Omnibus Law on Job Creation ที่เปิดให้ใช้บริการแล้ว จะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศได้

.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน เนื่องจากมีประชากรประมาณ 270 ล้านคนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยไทยเป็นประเทศที่ลงทุนในอินโดนีเซียมากเป็นอันดับที่ 11 คิดเป็นมูลค่า 90.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2/2564 และลงทุนมากเป็นอันดับที่ 10 ในครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 318.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (2) อุตสาหกรรมส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และ (3) อุตสาหกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ ควรพิจารณาและศึกษาช่องทางการส่งออกสินค้าขยายไปยังตลาดอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศอินโดนีเซียมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลัง COVID-19 และความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Previous Post

จีนให้ความสำคัญกับใต้พิภพวิทยา (Deep Earth Sciences) ในการพัฒนาประเทศ

Next Post

ติดตามข่าวที่น่าสนใจของยูเออี ในเดือนสิงหาคม 2564

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

ติดตามข่าวที่น่าสนใจของยูเออี ในเดือนสิงหาคม 2564

Post Views: 1,648

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X