เมือง Sukkur (ซัคเกอร์) ประเทศปากีสถาน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลําดับ 3 ของแคว้นซินด์ รองจากเมืองการาจีและ Hyderabad อีกทั้งยังเป็นเมืองเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอ้อย ข้าว ฝ้าย มะเขือเทศ ถั่ว ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินทผาลัมที่มีชื่อเสียงมานับร้อยปี
.
เมือง Sukkur ได้มีการผลิตอินทผาลัมกว่า 600,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่า 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเขตเมือง Khairpur และเมือง Sukkur ในแคว้นซินด์ผลิตได้ร้อยละ 50 ของผลผลิตทั้งประเทศ ปากีสถานนับเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ส่งออกอินทผาลัมมากที่สุด โดยร้อยละ 95 ส่งไปอินเดีย แต่หลังจากที่อินเดีย และ ปากีสถาน ได้มีเรื่องบาดหมางกันเมื่อปี 2562 อินเดียได้มีมาตรการบังคับเก็บภาษีสินค้าจากปากีสถาน ร้อยละ 200 จากเดิมเพียงร้อยละ 25 ส่งผลให้อินทผาลัมปากีสถาน ถูกส่งไปยังประเทศในอาหรับเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการแสวงหาตลาดใหม่ ๆ โดยปี 2563 มีการส่งอินทผาลัมชนิดแห้งไปยังประเทศไทย มูลค่ากว่า 1.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังประเทศ ในยุโรปและออสเตรเลียต่อไป นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเมือง Sukkur ได้มีการนําเข้าถุงป่านจากไทยกว่า 3 ล้านถุงต่อปี เพื่อบรรจุอินทผาลัมชนิดแห้งเพื่อส่งออกนอกประเทศ
.
อินทผาลัม จัดเป็นผลไม้แห้งประเภทหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ เนื่องจากมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งเป็นผลไม้ที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม เป็นประโยชน์ต่อสตรีมีครรภ์ และให้พลังงานสูง จึงมีแน้วโน้มสูงว่าจะกลายเป็นหนึ่งในอาหารอนาคต หรือ Future food ทั้งในด้านอาหารสุขภาพ และอาหารทางการแพทย์ ซึ่งประชากรโลก รวมทั้งประชากรไทยได้หันมาใส่ใจเรื่องอาหารสุขภาพ และอาหารที่รักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างมาก อินทผาลัมจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกทางอาหารที่น่าจับตามอง
.
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) กับปากีสถาน ผู้ประกอบการนำเข้า จึงอาจพิจารณานำเข้าอินทผาลัม สินค้าการเกษตร และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้โดยปลอดภาษี นอกจากนี้ การร่วมมือทางด้านธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย-ปากีสถาน ในด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือการแปรรูปอินทผาลัม จะสามารถผลักดันการส่งออกเพื่อบุกตลาดอาเซียน หรือ กลุ่มสินค้าฮาลาล ได้อย่างหลากหลาย
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี