ในการส่งเสริมความร่วมมือและเปิดสู่ภายนอกของจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียนภายใต้โครงการ “Gateway to ASEAN” รัฐบาลกว่างซีได้จัด “ชุดของขวัญ” เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ เพื่อพัฒนาให้เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเป็นพื้นที่น่าลงทุนของธุรกิจต่างชาติ โดย “เขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี)” เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ดึงดูดและรองรับเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 พื้นที่ย่อย ได้แก่ นครหนานหนิง (เมืองเอก) เมืองชินโจว (เมืองท่า) และเมืองฉงจั่ว (เมืองชายแดน) โดยได้รับนโยบายพิเศษด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน และเป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้นำเข้าสินค้าได้แบบปลอดภาษี รวมถึงการนำเข้าสินค้าสำหรับการแปรรูปเพื่อส่งออก เหมือนกับเขตทดลองการค้าเสรีนครเซี่ยงไฮ้ ที่เป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกในประเทศจีน
.
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) ยังคงได้รับการจับตามองจากนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากกว่างซีมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน โดยเฉพาะด้านตำแหน่งที่ตั้งที่เปรียบเสมือน “ประตูสู่อาเซียน” นอกจากนี้ยังมีทรัพยากร วัตถุดิบ ระบบการขนส่ง และระบบโลจิสติกส์ (โมเดลขนส่งแบบไร้รอยต่อ “เรือ+ราง”) รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน
.
โดยจากข้อมูล พบว่า ไตรมาสแรกของปี 2564 เขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) มีบริษัทจดทะเบียนรายใหม่จำนวน 6,320 ราย เพิ่มขึ้น 402% (YoY) ในจำนวนนี้ เป็นบริษัทใหม่ที่ดำเนินธุรกิจในสาขาที่ได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ (Key Sector) คิดเป็นสัดส่วน 42% โดยเฉพาะสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล การค้าระหว่างประเทศ และโลจิสติกส์
.
นอกจากนี้ ในบรรดาพื้นที่ย่อย 3 แห่ง “พื้นที่ย่อยนครหนานหนิง” เป็นเป้าหมายการลงทุนที่ได้รับความนิยมที่สุดในสายตานักลงทุนต่างประเทศ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่น่าสนใจและได้รับการส่งเสริมให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ย่อยนครหนานหนิง คือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ โดยเฉพาะ Big Data ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Cloud Computing ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 มีนักลงทุนต่างชาติรายใหม่ที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในพื้นที่ย่อยนครหนานหนิงจำนวน 85 ราย มูลค่าเงินลงทุนจริง 259.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
นอกจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้อาเซียนแล้ว นโยบายและสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน ผ่านนโยบายทางภาษี เงินรางวัล เงินสนับสนุนและเงินอุดหนุนต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก กล่าวคือ
.
- นโยบายและสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ย่อยนครหนานหนิงสำหรับบริษัทต่างชาติที่ดำเนินกิจการผลิต (ตั้งโรงงานผลิต) หากมีมูลค่าเงินลงทุนจริงมากกว่า3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัล 2.5% ของมูลค่าเงินลงทุนจริง โดยแต่ละรายมีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลสะสมสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
- บริษัทที่ดำเนินธุรกิจภาคการผลิตสมัยใหม่ มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งธุรกิจระยะแรกสูงสุดไม่เกิน3 แสนหยวน หากบริษัทซื้อหรือเช่าโรงงานมาตรฐานเพื่อใช้ในกิจกรรมการผลิต มีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนการลงทุนอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตได้สูงสุด 30 ล้านหยวน
.
- เขตทดลองฯ พื้นที่ย่อยหนานหนิงพร้อมให้เงินอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด6 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนให้บริษัทต่างชาติขยายการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติที่จัดตั้งกิจการอยู่แล้ว หากจดทะเบียนเพิ่มทุนต่างชาติเพื่อขยายกำลังการผลิต หรือเพื่อขยายขีดความสามารถในงานวิจัยและพัฒนา หรือเพื่อปรับปรุงยกระดับเทคโนโลยี มีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลสูงสุด 10 ล้านหยวน และหากนักลงทุนต่างชาติเข้าควบซื้อกิจการในนครหนานหนิง มีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านหยวน
.
- ด้านทรัพยากรบุคคล ชาวต่างชาติที่ทำงานในพื้นที่ย่อยนครหนานหนิง ในตำแหน่งงานด้านบริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้มีทักษะฝีมือเฉพาะด้าน มีสิทธิ์ได้รับรางวัลภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
.
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมที่รัฐบาลกว่างซีใช้สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ การลดระเบียบและขั้นตอนการบริหารงานของหน่วยงานภาครัฐ การลดจำนวนเอกสารที่ต้องจัดเตรียมในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจให้กระชับมากขึ้น และการกระจายอำนาจให้หน่วยงานรัฐท้องถิ่นในการตรวจสอบและอนุมัติที่รวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาระบบบริการเชิงลึกสำหรับธุรกิจต่างชาติในเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามให้บริการนักลงทุนต่างชาติ (Customer Service) และการให้ช่วยเหลือนักลงทุนต่างชาติ (Customer Support) เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับสภาพแวดล้อมทางการลงทุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาจัดตั้งธุรกิจในกว่างซี รวมทั้งช่วยสนับสนุนธุรกิจต่างชาติให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคงอีกด้วย
.
จะเห็นได้ว่า การที่ประเทศจีนได้หันมาใช้นโยบายส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศในอาเซียน ให้เข้ามาลงทุนในจีนมากขึ้นนั้น ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่สนใจจะขยายตลาดไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ การเข้าไปลงทุนในกว่างซีจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงหนึ่งในตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสามารถใช้ประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่ำลงได้อีกด้วย ผู้ประกอบการที่สนใจควรติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและสิทธิประโยชน์เพื่อการลงทุนในจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจสำหรับการลงทุนในอนาคตต่อไป
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง