Saturday, June 7, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

มะม่วงกัมพูชาพร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดมะม่วงไทยในจีน

02/06/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
23
SHARES
196
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เมื่อไม่นานมานี้ มะม่วงสดล็อตแรกของกัมพูชาส่งถึงท่าเรือชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงแล้ว เป็นมะม่วงสด จำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 147 ตัน โดยมะม่วงทั้งหมดจะส่งไปจำหน่ายที่ตลาดกรุงปักกิ่ง มณฑเหอหนาน มณฑลเหลียวหนิง มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลซานตง

.

มะม่วงล็อตนี้เป็นผลงานสำเร็จของความร่วมมือระหว่างจีนกับกัมพูชา หลังจากที่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) และกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้ร่วมลงนามพิธีสารว่าด้วยสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกมะม่วงจากกัมพูชาไปจีน จากนั้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 สำนักงาน GACC ได้ประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุมะม่วงกัมพูชาที่ส่งออกไปประเทศจีน ทำให้ “มะม่วง” เป็นสินค้าเกษตรชนิดใหม่ และเป็นผลไม้สดชนิดที่ 2 ต่อจากกล้วยหอม ที่กัมพูชาสามารถส่งออกไปประเทศจีนได้

.

นายหลู เฟิง (Lu Feng) รองนายกเทศมนตรีเมืองชินโจว กล่าวว่า ท่าเรือชินโจววางแผนเปิดเส้นทางเดินเรือ (express service) สำหรับผลไม้สดกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้น หลังจากที่ท่าเรือชินโจวได้เปิดให้บริการกับประเทศไทยและเวียดนามสำเร็จแล้ว และท่าเรือชินโจวจะเป็นจุดนำเข้าผลไม้อาเซียนของจีน และขยายตลาดไปยังเอเชียกลางและยุโรปด้วย

.

ในพิธีลงนามพิธีสารฯ เมื่อปีที่แล้ว นาย Veng Sakhon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงกัมพูชา ได้เปิดเผยข้อมูลว่า กัมพูชามีพื้นที่ปลูกมะม่วงราว 124,319 เฮกตาร์ (ประมาณ 776,993 ไร่) ซึ่งให้ผลผลิตมะม่วงสดได้ปีละราว 1.44 ล้านตัน โดยนาย Veng ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า นี่เป็นโอกาสทองของกัมพูชาในการคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดของมะม่วงกัมพูชาในจีน และหลังจากส่งออกมะม่วงแล้ว คาดว่ากัมพูชาจะส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดจีนได้มากขึ้นอีกในอนาคต ได้แก่ ลำไย ทุเรียน และส้มโอ

.

นอกจากนี้ ท่าเรือชินโจว (Qinzhou Port) เป็นท่าเรือสำคัญในอ่าวเป่ยปู้กว่างซี หรือที่คนไทยรู้จักในชื่ออ่าวตังเกี๋ย และเป็นศูนย์กลางของระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลแห่งภาคตะวันตก (New Western Land and Sea Corridor -NWLSC) ปัจจุบัน มีเส้นทางเดินเรือ 48 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางเดินเรือกับอาเซียน 21 เส้นทาง

.

หลายปีมานี้ ผลไม้จากอาเซียนเป็น “สินค้านำเข้าดาวเด่น” ของท่าเรือชินโจว โดยเฉพาะผลไม้ไทย (ลำไย ทุเรียน มังคุด และมะม่วง) และผลไม้เวียดนาม โดยท่าเรืออ่าวเป่ยปู้กว่างซีได้เริ่มพัฒนาเส้นทางเดินเรือสายตรง (express service) สำหรับขนส่งผลไม้เป็นเส้นแรกเมื่อปี 2560 กับประเทศไทย (ปัจจุบัน มีเที่ยวเรือระหว่างท่าเรือชินโจว – ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพฯ สัปดาห์ละหลายเที่ยว) ต่อด้วยประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชา (ท่าเรือสีหนุ)

.

ในปี 2563 ประเทศจีนนำเข้ามะม่วง (พิกัดศุลกากร 08045020) คิดเป็นน้ำหนักรวม 84,137 ตัน มูลค่าการนำเข้า 533.98 ล้านหยวน โดยแหล่งนำเข้าหลักมาจากประเทศเวียดนาม (341 ล้านหยวน สัดส่วน 63.86%) ประเทศไทย (87.72 ล้านหยวน สัดส่วน 16.43%) ไต้หวัน (57.9 ล้านหยวน สัดส่วน 10.86%) ออสเตรเลีย (20 ล้านหยวน สัดส่วน 3.76%) และเปรู (16.6 ล้านหยวน สัดส่วน 1.59%)

.

ทั้งนี้ หากพิจารณารายมณฑล พบว่า เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเป็นมณฑลที่นำเข้ามะม่วงมากที่สุดในประเทศจีน คิดเป็นน้ำหนักรวม 65,972 ตัน (สัดส่วน 78.41% ของทั้งประเทศ) มูลค่าการนำเข้า 340.4 ล้านหยวน (รองลงมา ได้แก่ มณฑลฝูเจี้ยน สัดส่วน 9.10% และมณฑลกวางตุ้ง สัดส่วน 4.67% ของปริมาณการนำเข้า) โดยกว่างซีนำเข้ามะม่วงจาก 2 ประเทศ คือ เวียดนาม (น้ำหนัก 64,779 ตัน สัดส่วน 98.19% ของปริมาณการนำเข้า) และไทย (น้ำหนัก 1,192 ตัน สัดส่วน 1.81%)

.

เป็นที่น่าสังเกตว่า พื้นที่จีนตอนใต้และภาคตะวันตกของจีนเป็นแหล่งปลูกมะม่วงที่สำคัญ มีสายพันธุ์ที่หลากหลาย (ไม่ซ้ำกับสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในไทย) และทำเป็นอุตสาหกรรม โดยเฉพาะที่เมืองไป่เซ่อ (Baise City) ของกว่างซี ที่ได้รับการขนานนามเป็น “แหล่งกำเนิดมะม่วงของประเทศจีน” มีการปลูกมะม่วงมากถึง 30 สายพันธุ์ โดยมะม่วงไป่เซ่อจะเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป แต่ปริมาณการผลิตยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเต็มที่ และปฏิเสธไม่ได้ว่า มะม่วงนำเข้าจากต่างประเทศมีคุณภาพ รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่พิเศษแตกต่างจากมะม่วงท้องถิ่น

.

การที่ “มะม่วง” เป็นผลไม้ที่ชาวจีนนิยมบริโภค ทั้งการรับประทานผลสด มะม่วงแปรรูป หรือแม้กระทั่งการนำไปปรุงอาหารคาว จึงเป็นโอกาสสำหรับมะม่วงไทย โดยชาวจีนส่วนใหญ่รู้จักมะม่วงไทยผ่านเมนูข้าวเหนียวมะม่วง และทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูของหวานสุดฮิตของร้านอาหารไทยในจีน แต่ร้านอาหารมักใช้มะม่วงท้องถิ่นที่รสชาติและเนื้อสัมผัสยังสู้มะม่วงน้ำดอกไม้ไทยไม่ได้ ดังนั้น การส่งเสริมการบริโภคมะม่วงไทยในตลาดจีนจึงไม่ใช่เรื่องยาก

.

ช่วงเวลาการออกสู่ตลาดที่ไม่ตรงกันเป็นช่องว่างทางการตลาดที่มะม่วงไทยสามารถเข้ามาขยายตลาดในพื้นที่กว่างซีและกระจายสู่มณฑลรอบข้างได้ กล่าวคือ มะม่วงไทยออกสู่ตลาดก่อนในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ขณะที่มะม่วงไป่เซ่อออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ดังนั้น ผู้ส่งออกสามารถใช้ความได้เปรียบจากที่ตั้งของไทยที่อยู่ไม่ไกลจากกว่างซี ส่งออกมะม่วงด้วยรถบรรทุกผ่านถนน R9 และ R12 เข้าที่ด่านโหย่วอี้กวานและด่านตงซิง หรือจะใช้รถบรรทุกต่อรถไฟที่สถานีด่งดังของเวียดนามเข้าที่ด่านรถไฟผิงเสียง และการขนส่งทางทะเลจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเรือชินโจวและท่าเรือเมืองฝางเฉิงก่างได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเช่นกัน

.

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกไทยไม่ควรมองข้ามการเลือกเส้นทางการขนส่ง การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ (packaging) ที่สามารถปกป้องผลมะม่วงระหว่างการขนส่ง เนื่องจากมะม่วงเป็นผลไม้เปลือกบางที่บอบช้ำง่าย จึงต้องใช้ความพิถีพิถันในการคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ทนทาน และมีการเจาะรูเพื่อระบายอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้มะม่วงอับชื้นจนเน่าเสียได้ง่าย ร่วมกับการใช้ระบบโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น (cold chain) เพื่อรักษาความสดใหม่ รวมถึงการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

.

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง

.

ที่มา:

เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com วันที่ 21 พฤษภาคม 2564

.

เว็บไซต์ www.customs.gov.cn/

.

https://thaibizchina.com/article/%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b9%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%aa/

Previous Post

เวียดนามจัดการประชุม Phu Yen Partnership & Development Conference ดึงดูดต่างชาติลงทุนในจังหวัดฟู้เอียนมากขึ้น

Next Post

กว่างซีเปิดเที่ยวบินคาร์โกบินตรง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” แล้ว

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

กว่างซีเปิดเที่ยวบินคาร์โกบินตรง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” แล้ว

Post Views: 753

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X