Friday, June 6, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ไม่มีหมวดหมู่

โครงการพัฒนาเมือง Tengah เมืองต้นแบบสีเขียวแห่งแรกของสิงคโปร์

09/04/2021
in ไม่มีหมวดหมู่
0
0
SHARES
5.5k
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

แผน Singapore Green Plan 2030 ซึ่งมีโครงการพัฒนาเมือง Tengah (เมืองต้นแบบสีเขียวแห่งแรกของสิงคโปร์) เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักนั้นรัฐบาลสิงคโปร์โดยนาย Lawrence Wong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ ได้แถลงเรื่องโครงการพัฒนาเขตเมืองใหม่ Tengah เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2559 ระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณ (Committee of Supply) รัฐสภาสิงคโปร์และได้ประกาศเป็นแผนแม่บทอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2559 พื้นที่เขตที่พักอาศัย Tengah เคยเป็นพื้นที่ฝึกซ้อมทางการทหารของสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2523 โดยพื้นที่เฟสแรกของโครงการฯ มีกําหนดแล้วเสร็จใน ปี 2565 และคาดว่าการก่อสร้างทั้งโครงการฯ จะเสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า โดยจะเป็นโครงการเมืองที่พักอาศัยที่พัฒนาโดยรัฐบาลสิงคโปร์ (HDB town) ลําดับที่ 24 ของสิงคโปร์

.

เมือง Tengah ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดเมืองต้นแบบสีเขียวและเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนแห่งแรกของสิงคโปร์ โดยโครงการฯ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ มีพื้นที่กว่า 4,300 ไร่ ประกอบด้วยที่พักอาศัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 42,000 ยูนิต แบ่งเป็น 5 เขตที่พักอาศัย (Housing Districts) ได้แก่ (1) Plantation (2) Park (3) Garden (4) Brickland และ (5) Forest Hit โดยแต่ละเขตจะออกแบบให้สัมพันธ์กับเอกลักษณ์ในแต่ละด้านของเมือง เช่น Plantation District ซึ่งเป็นเขตแรกที่เริ่มก่อสร้างรวมทั้งสิ้นประมาณ 10,000 ยูนิต ใช้แนวคิด Farm-to-Table หรือที่พักอาศัยคู่การเกษตรชุมชน โดยจัดพื้นที่สําหรับกิจกรรมทางเกษตรต่าง ๆ เช่น ตลาดชุมชน และ Park District ที่จะเป็น Hub ของระบบขนส่ง สาธารณะสีเขียว ซึ่งรวมถึงการเป็นต้นแบบ Car-free Town แห่งแรก

.

รัฐบาลสิงคโปร์เปิดให้ประชาชนจองที่พักอาศัยใน Tengah เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 ก่อนการก่อสร้าง (Build-to-Order Flats: BTO Flats) และได้ทยอยเปิดให้ประชาชนจองที่พักอาศัยเป็นรอบ ๆ ในทุกปี โดยจะพิจารณาให้ประชาชนที่ทํางานหรือดําเนินธุรกิจในเขตนวัตกรรม Jurong Innovation District ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเช่นกัน สามารถจองที่พักได้ก่อนเพื่ออํานวยความสะดวกการเดินทาง

.

สำหรับแผนการดําเนินงานและเป้าหมายของโครงการพัฒนาเมืองใหม่ Tengah ประกอบด้วยแผนการดําเนินงานและเป้าหมาย 7 ด้าน ได้แก่

.

1) Smart Planning คือ การนําโปรแกรมจําลองคอมพิวเตอร์และนําผลวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีที่สุดมาใช้ออกแบบผังเมืองและอาคารทั้งหมดเพื่อประโยชน์ในด้าน (1) การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศและลดปริมาณความร้อนเข้าสู่อาคาร (2) การติดตั้งเซลล์สุริยะเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และการกําหนดมาตรการการใช้หลอดไฟ Smart LED ในทุกอาคาร (3) การเป็นศูนย์ต้นแบบ Car-free Town และการสร้าง อุโมงค์ทางสัญจร/ลานจอดรถใต้ดิน เพื่อแก้ปัญหาและข้อจํากัดด้านพื้นที่ใช้สอยบนดินที่มีอยู่อย่างจํากัด และเพื่อให้มีพื้นที่บนดินให้เพียงพอสําหรับการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ร้อยละ 70 ของโครงการฯรวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว พื้นที่ทางเท้า และทางจักรยานในชุมชนให้เพียงพอด้วย

.

2) Smart Energy Management คือ การเคหะสิงคโปร์ร่วมกับบริษัทพลังงาน SP Group หรือชื่อเดิมคือ Singapore Power เป็นหน่วยงานด้านพลังงานไฟฟ้าและก๊าซของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยจะพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ และ AI สําหรับการอนุรักษ์พลังงานทั่วเมือง รวมถึงออกแบบแอปพลิเคชันให้ผู้อยู่อาศัยสามารถตรวจสอบการใช้พลังงานในแต่ละครัวเรือนอย่างแม่นยํา

.

3) Smart Lighting การควบคุมระดับแสงสว่างในพื้นที่ต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและจําเป็นของแต่ละช่วงเวลา เช่น แสงไฟถนนที่จะค่อย ๆ ลดระดับความสว่างลงในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อประหยัดพลังงาน

.

4) Automated Waste Collection การติดตั้งระบบท่อส่งขยะโดยตรงจากอาคาร HDB เพื่อไปรวม ที่ศูนย์จัดการขยะส่วนกลาง โดยใช้ระบบลําเลียงของเสีย “Pneumatic Waste Conveyance System – PWCS” ซึ่งเป็นระบบรวบรวมขยะอัตโนมัติที่ใช้แรงดูดอากาศความเร็วสูง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ มูลฝอย ตกค้าง และช่วยลดแหล่งเพาะพันธุ์ของหนูและแมลงวัน

.

5) EVs – ready จะมีจุดชาร์จรถยนต์ EVs ในลานจอดรถทุกแห่ง

.

6) Smart enabled Homes ในแต่ละยูนิตของ HDB จะติดตั้งปลั๊กไฟอัจฉริยะ (Smart Switch) และแผงควบคุม (Distribution Board) ควบคุมการทํางานผ่าน Application ซึ่งจะช่วยคํานวณปริมาณการใช้ไฟที่เหมาะสมและปรับปรุงแนวทางการใช้พลังงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงานได้สูงสุด

.

7) Centralised Cooling System การติดตั้งระบบทําความเย็นและระบบหล่อเย็นใต้ดินแบบรวมศูนย์ ในแต่ละอาคาร ควบคุมอุณหภูมิของทั้งอาคาร ณ ห้องควบคุมเดียว ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้ เครื่องปรับอากาศแยกกันในแต่ละยูนิต

.

ปัจจุบัน ประชาชนของสิงคโปร์มากกว่าร้อยละ 80 พักอาศัยอยู่ในโครงการที่พักอาศัยที่พัฒนาโดยรัฐบาล(HDB Flats and public housing) ดังนั้น รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสําคัญกับโครงการพัฒนา HDB แห่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ในด้านตะวันตกของประเทศ ซึ่งจะรองรับการขยายตัวของเมืองใหม่ ทั้งการสร้างเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ (CBD) แห่งที่ 2 ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Jurong Innovation District) และท่าเรือ Tuas ซึ่งล้วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานจํานวนมาก และจะสร้างอุปสงค์ด้านที่พักอาศัยในเขตตต. อย่างมากด้วยเช่นกัน ดังนั้น โครงการ Tengah จึงได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากประชาชนในสิงคโปร์ เนื่องจากจะช่วย (1) ลดความแออัดของที่พักอาศัยในด้านตะวันตกของประเทศ (2) อํานวยความสะดวกประชาชนที่มีความจําเป็นต้องเดินทางไปทํางานหรือทํางานธุรกิจทางรถยนต์ ผ่านทางพิเศษ Second Link Bridge ทุกวัน และ (3) แสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสิงคโปร์ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน นอกจากนี้ สื่อมวลชนต่าประเทศ อาทิ CNN ได้รายงานข่าวโครงการ Tengah ว่าเป็นต้นแบบของ Eco-city ที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

.

สิงคโปร์จะยังคงเปิดรับแรงงานภาคการก่อสร้างจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะแรงงานไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง COVID-19 และในช่วงทศวรรษข้างหน้า เนื่องจาก (1) คนชาติสิงคโปร์ไม่นิยมประกอบอาชีพแรงงานก่อสร้าง (2) รัฐบาลสิงคโปร์เห็นว่าแรงงานของไทยเป็นแรงงานฝีมือดีและยินดีต้อนรับแรงงานไทย และ (3) รัฐบาลสิงคโปร์ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในการพัฒนาประเทศ เช่น โครงการท่าเรือ Tuas โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ในท่าอากาศยานชางงี โครงการสร้างเมือง Tengah และเมืองใต้ดิน ซึ่งล้วนมีกรอบระยะเวลาดําเนินการประมาณ 10 – 20 ปี ทั้งนี้ โครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสิงคโปร์ล้วนเป็นโครงการที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าไปศึกษาและนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจในประเทศไทยได้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไทยยังไม่เคยมีประสบการณ์และยังไม่เกิดขึ้น

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์

.

ขอยคุณรูปภาพจาก: https://www.todayonline.com/singapore/peek-tengah-next-new-hdb-town-size-bishan

Previous Post

การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลใน สปป. ลาว

Next Post

ชาวสิงคโปร์ยกให้ไทยเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวยอดนิยม

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

ชาวสิงคโปร์ยกให้ไทยเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวยอดนิยม

Post Views: 7,827

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025
กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

04/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X