เชงเม้ง หรือ เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ ถือเป็นประเพณีที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับชาวจีน รวมถึงชาวจีนโพ้นทะเล เทศกาลดังกล่าวได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื้อที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหนึ่ง “วันรวมญาติ” ที่ทุกคนในครอบครัวและเครือญาติจะมาพบปะสืบสานสายสัมพันธ์กันอีกด้วย โดยปีนี้เทศกาลเชงเม้งตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2563
.
เนื่องจากกระแสโลกที่เปลี่ยนไปผสมผสานกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเจริญได้เข้ามาแทนที่ซึ่งส่งผลให้วิถีชีวิตของชาวจีนเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต การประกอบพิธีใน “เทศกาลเชงเม้ง” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับโมเดล “เชงเม้งออนไลน์”
.
ก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ผุดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจรับจ้างทำความสะอาดฮวงซุ้ยและเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และธุรกิจการเซ่นไหว้ออนไลน์ ได้เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์บรรดาลูกหลานที่มีหัวคิดสมัยใหม่ ที่ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีเชงเม้งได้ ธุรกิจดังกล่าวเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และดูจะมีบทบาทเด่นชัดในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รัฐบาลหลายเมืองไม่อนุญาติให้ประชาชนรวมกลุ่มเพื่อประกอบพิธีเชงเม้งที่สุสาน
.
ธุรกิจดังกล่าวมีบริษัทรับจ้างหรือเป็นสุสานที่รับจ้างเอง มีการเสนอราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจและระยะทางของสุสาน บริการมีตั้งแต่การดูแลทำความสะอาดสุสาน การจัดวางช่อดอกไม้และของเซ่นไหว้ การอ่านคำไว้อาลัย การปล่อยนกพิราบ การจุดธูปเทียนและโค้งคำนับ การผูกริบบิ้นผ้าสีเหลืองเพื่อแสดงความอาลัย รวมถึงบริการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งพิธีเหล่านี้จะมีการไลฟ์สดผ่าน Wechat ให้ลูกหลานที่ไม่มีเวลาหรืออยู่ห่างไกลได้มีส่วนร่วมในการเซ่นไหว้สุสานบรรพบุรุษผ่านจอสมาร์ทโฟนแบบ “ถึงตัวไกล แต่ใจยังผูกพัน”
.
นอกจากการจ้างตัวแทนไปทำความสะอาดฮวงซุ้ยและเซ่นไหว้บรรพบุรุษแทนแล้ว เพื่อให้เข้ายุคเข้าสมัยของลูกหลานที่ไม่สามารถไปเชงเม้งที่สุสานได้ ก็ยังมีทางเลือก คือ “การเซ่นไหว้ออนไลน์” ที่สามารถทำได้ในทุกที่ทุกเวลา โดยอนุสรณ์สถาน รวมทั้งผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็น Third party ได้พัฒนาฟังก์ชันให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเพจฮวงซุ้ยออนไลน์ให้กับผู้ล่วงลับ โดยการเข้าไปลงทะเบียน กรอกข้อมูลของผู้ล่วงลับ (ชื่อ-สกุล วันชาตะ/มรณะ อนุสรณ์สถานที่เก็บอัฐิอยู่) อัปโหลดรูปถ่าย ก็จะมีภาพจำลองของฮวงซุ้ยพร้อมรูปถ่ายแสดงขึ้นมา นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเชื้อเชิญเครือญาติให้เข้ามาแสดงความระลึกถึง รวมทั้งโพสต์คำสดุดี คำไว้อาลัย จุดธูปจุดเทียน และเลือกเซ่นไหว้ผู้ล่วงลับด้วยภาพดอกไม้ บุหรี่ เหล้า ผลไม้ และน้ำชาได้อีกด้วย
.
ท่ามกลางคำถามเรื่องความเหมาะสม แม้ว่า “การไหว้บรรพบุรุษออนไลน์” จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มคนหัวอนุรักษ์นิยมบางส่วนที่มองว่าหากไม่ได้ไปทำพิธีด้วยตนเองก็เหมือนกับการหลอกตนเอง การกระทำเช่นนี้ไม่ได้แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ แถมเป็นการไม่ให้เกียรติกับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ก็มีกลุ่มคนหัวก้าวหน้าเห็นว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่อยู่ไกลหรือมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถกลับไปก็สามารถไหว้บรรพบุรุษและมองเห็นจากหน้าจอออนไลน์
.
กลับมาในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าหลายพื้นที่ในจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้แล้ว แต่รัฐบาลยังคงต้องเฝ้าระวังและมีการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมในระดับที่เข้มงวดแตกต่างกันเพื่อไม่ให้เกิดการอุบัติซ้ำในวงกว้างอีกครั้ง นอกเหนือจากการรณรงค์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด และหลีกเลี่ยงการชุมนุมของคนเป็นหมู่คณะ สำหรับเทศกาลเชงเม้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งปกติแล้วลูกหลานจะต้องไปเซ่นไหว้ที่สุสานบรรพบุรุษ
.
สำหรับเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ไม่นานมานี้รัฐบาลกว่างซี โดยกรมกิจการพลเรือนได้ดำเนินมาตรการให้อนุสรณ์สถานงดบริการให้ประชาชนทั่วไปชั่วคราว รวมทั้งงดทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องที่มีการชุมนุมเป็นหมู่คณะในวันเชงเม้ง ซึ่งรวมถึงการทำความสะอาดและเซ่นไหว้สุสานบรรพบุรุษด้วย (เช่นเดียวกับในหลายมณฑล)
.
เมื่อกฎหมายใหม่ออกมาในลักษณะนี้ พิธีการไหว้เชงเม้งจะเดินหน้าต่ออย่างไร ซึ่งรัฐบาลกว่างซีแนะนำให้ประชาชนหันมาใช้วิธีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษรูปแบบใหม่ ซึ่งรวมถึงการใช้บริการตัวแทนเซ่นไหว้บรรพบุรุษและการเซ่นไหว้ออนไลน์ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการใช้บริการตัวแทนเซ่นไหว้นั้น รัฐบาลกำหนดแนวปฏิบัติให้ผู้ให้บริการจะต้องนัดหมายเวลาล่วงหน้า มีการควบคุมจำนวนคน และมีการตรวจวัดอุณหภูมิของตัวแทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่แสดงความกตัญญูแทน โดยบริษัทเอกชนบางแห่งในนครหนานหนิงเสนอราคาเริ่มต้นที่ 388 หยวน
.
นอกจากนี้ รัฐบาลกว่างซีได้ขอความร่วมมือจากอนุสรณ์สถานให้ช่วยบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ด้วยการจัด “พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษรวมด้วยตัวแทนผ่านระบบออนไลน์” โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้แสดงความกตัญญูไปพร้อมกันผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์แอปพลิเคชัน รวมถึง Wechat official account โดยไม่ต้องไปถึงสุสานด้วยตนเอง กำหนดการจะจัดขึ้นในวันที่ 4 เมษายน 2563 เวลา 10:00-11:00 น.
.
ที่สำคัญรัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกพื้นที่ดำเนินการประชาสัมพันธ์แนวปฏิบัติดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สร้างการรับรู้และจิตสำนึกที่ดีเพื่อให้การป้องกันและควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิผลชัดเจน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามาเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้ชีวิต และขับเคลื่อนธรรมเนียมประเพณีโบราณให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก้าวทันยุคทันสมัย และเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหาและก้าวข้ามข้อจำกัด ณ ช่วงเวลาหนึ่งไปได้ โดยเฉพาะผลพวงของ COVID-19 กับการดำเนินมาตรการ “ไหว้เชงเม้งแบบออนไลน์” ของรัฐบาลที่อาจเป็น “จุดเริ่มต้น” ในการปรับทัศนะการใช้ชีวิตของคน “หัวโบราณ” กับ “หัวสมัยใหม่” ให้สามารถเข้าหากันและยอมรับความเห็นอีกฝ่ายได้มากยิ่งขึ้น และอาจเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญที่จะพลิกโฉมสังคมจีนสู่สังคมดิจิทัลที่แท้จริง
.
ในยุคที่หลายประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะคับขันจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงประเทศไทยที่ว่ากันตามตรงว่ามีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ “การเซ่นไหว้ออนไลน์” ของจีนก็พอเป็นต้นแบบการเรียนรู้สำหรับประเทศไทยในการพัฒนาแนวทางการทำงานเพื่อรับมือและควบคุมการแพร่ระบาด และเป็นโมเดลธุรกิจแนวใหม่ที่ภาคธุรกิจสามารถนำไปพัฒนาและต่อยอดได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการด้านการบริการอาจปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในโลกวิถีใหม่ โดยสามารถพิจารณานำเสนอบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ในสภาวะที่มีข้อจำกัดด้านต่างๆ เช่น ทางกายภาพ
.
สกญ. ณ นครหนานหนิง