นายกรัฐมนตรี สปป. ลาวได้มีข้อตกลงเลขที่ 31/นย. ลงวันที่ 2 เม.ย. 2563 ว่าด้วยการกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจลาว สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
[su_spacer]
- ด้านนโยบาย
[su_spacer]
1.1 ภาษีรายได้
- ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้สำหรับเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างภาครัฐและภาคเอกชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 5 ล้านกีบ และ MSMEs เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 2563)
- ยกเว้นการเก็บภาษี อากร และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ สำหรับการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการสกัดกั้นและเตรียมความพร้อมรับมือกับแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น หน้ากากอนามัย น้ำยาล้างมือ อุปกรณ์การแพทย์
- เลื่อนการเก็บภาษีอากรจากผู้ประกอบธุรกิจบริการท่องเที่ยวเป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 2563)
[su_spacer]
1.2 ขยายเวลาการส่งรายงานทางการเงินและผลประกอบการปี 2562 ของวิสาหกิจจากวันที่ 31 มี.ค. 2563
เป็นวันที่ 30 เม.ย. 2563
[su_spacer]
1.3 ขยายเวลาการชำระค่าธรรมเนียมการใช้ถนนจากวันที่ 31 มี.ค. 2563 เป็น 30 มิ.ย. 2563
[su_spacer]
1.4 ศึกษาความเป็นไปได้ในการผ่อนผันและขยายเวลาการชำระค่าไฟฟ้าและน้ำประปาของผู้ใช้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
[su_spacer]
1.5 ให้ธนาคารแห่งสปป. ลาวดำเนินการดังนี้
[su_spacer]
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานของธนาคารแห่ง สปป. ลาว และปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ตามความเหมาะสม
- กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการตามนโยบายสินเชื่อเพื่อบรรเทาผลกระทบ เช่น การเลื่อนเวลาชำระเงินต้นและดอกเบี้ย การปรับลดอัตราดอกเบี้ย อนุมัติวงเงินกู้ใหม่แก่ภาคธุรกิจ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การจัดชั้นหนี้
[su_spacer]
1.6 ขยายเวลาการชำระค่าประกันสังคมภาคบังคับของภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบออกไป 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 2563)
[su_spacer]
- ด้านมาตรการ
[su_spacer]
2.1 มอบหมายให้ กระทรวงแผนการและการลงทุนศึกษาเพื่อปรับตัวเลขการขยายตัวของ GDP และตัวเลข
การคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคปี 2563 ที่สำคัญให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง รวมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงการประชุมสภาแห่งชาติชุดที่ 8 สมัยสามัญ ครั้งที่ 9
2.2 มอบหมายให้ กระทรวงแผนการและการลงทุน กระทรวงการเงิน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ธนาคารแห่ง สปป. ลาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค เช่น ควบคุมราคาสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยน จัดเก็บรายได้และจัดการหนี้สิน ผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้สามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชน
2.3 มอบหมายให้ กระทรวงการเงิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ให้มากเท่าที่จะทำได้ ควบคุมรายจ่ายงบประมาณอย่างรัดกุม โดยเร่งจัดเก็บรายได้จากผู้ประกอบที่มีศักยภาพและไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกันให้ลดรายจ่ายการบริหารกระทรวงและหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่นลงอย่างน้อยร้อยละ 10 ของแผนประจำปี และลดรายจ่ายของกองทุนวิจัยวิทยาศาสตร์และรายจ่ายอื่น ๆ เช่น การจัดการประชุม การต้อนรับแขกจากต่างประเทศ การเฉลิมฉลองวันสำคัญต่าง ๆ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำเงินมาสมทบในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และให้เลื่อนการเบิกจ่ายโครงการลงทุนของรัฐด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (โครงการใหม่) ในปี 2563 ที่ผ่านการรับรองจากสภาแห่งชาติ ออกไปเป็นปี 2564 โดยขอให้ตรวจสอบ ระงับ หรือปรับลดมูลค่าโครงการลงทุนของรัฐ
ที่มีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงและขาดประสิทธิภาพ
2.4 เร่งศึกษามาตรการส่งเสริมการผลิตสินค้า โดยเฉพาะส่งเสริมการทำงานของกองทุนส่งเสริม SMEs ให้มีผลเป็นรูปธรรม
2.5 ศึกษาและจัดทำคำแนะนำในการปรับปรุงและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในฤดูท่องเที่ยว 3 เดือนสุดท้ายของปี 2563
2.6 เตรียมการผลิตและเจรจากับบริษัทที่สั่งซื้อแร่ธาตุจากจีนและประเทศต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อประเทศคู่ค้าประกาศเร่งการผลิตในอุตสาหกรรมแร่ธาตุ
2.7 ติดตาม ตรวจสุขภาพ และคุ้มครองแรงงานลาวที่กลับมาจากต่างประเทศ โดยให้กักกันตัวเอง 14 วัน และออกใบรับรองให้แก่แรงงานที่ผ่านการติดตามและตรวจสุขภาพแล้ว เพื่อให้สามารถกลับมาทำงานได้
2.8 ศึกษาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของรัฐวิสาหกิจการบินลาวเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย
[su_spacer]