เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 สํานักพิมพ์ The Business Times ได้ลงบทความ “Technology could ease pain of rising costs on F&B earnings” ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ [su_spacer size=”20″]
บริษัทที่ทํากิจการด้านสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% ซึ่งต้นทุนการบริการที่สูงขึ้นอันมีสาเหตุจากข้อกฎหมายด้านการจ้างแรงงานต่างชาติที่เข้มงวดขึ้น จะส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสิงคโปร์ แต่เทคโนโลยีจะมีส่วนเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ [su_spacer size=”20″]
DBS Group research วิเคราะห์ว่า บริษัทที่ทํากิจการต้านการผลิตอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% ซึ่งหมายความว่า พวกเขาอาจจะต้องจ้างแรงงานที่เป็นคนในท้องถิ่นมาแทนหรือแทนที่แรงงานมนุษย์ด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือเลือกใช้ทั้ง 2 วิธี [su_spacer size=”20″]
นักวิเคราะห์ของ CIMB กล่าวว่า การลดโควตาด้านแรงงานต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อบรรดาร้านอาหารเพราะค่าจ้างที่จ่ายให้พนักงานนั้นคิดจาก 1/3 ของราคาต้นทุน และกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทหลายแห่งยังได้รายงานว่า ได้รายได้ลดน้อยลง [su_spacer size=”20″]
ในช่วงงบประมาณประจําเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รัฐบาลได้ประกาศว่า อัตราการจ้างแรงงานต่างชาติ (Dependency Ratio Ceiling-DRC) ในส่วนอุตสาหกรรมบริการจะลดลงจาก 40% เป็น 38% ในช่วงเดือนมกราคม 2563 และจะลดต่ำลงไปถึง 35% ในเดือนมกราคม 2564 นอกจากนี้ โควตาแรงงานผู้ถือบัตร S Pass จะลดลงจาก 15% เป็น 13% ในเดือนมกราคม 2563 และกลายเป็น 10% ในเดือนมกราคม 2564 [su_spacer size=”20″]
ในขณะที่เงินเดือนขึ้นต่ำสําหรับแรงงานสิงคโปร์ซึ่งคิดรวมกับโควตาการจ้างงานชาวต่างชาติ ในส่วนของแรงงานที่มีใบอนุญาตแรงงานและ S Pass นั้น สูงขึ้นจากเดิม 1,200 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน เป็น 1,300 ดอลลาร์สิงคโปร์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 [su_spacer size=”20″]
นักวิเคราะห์ DBS คาดการณ์ว่า ผลกระทบของการลด DRC ไป 5% จนเป็น 35% จากการตรวจสอบในบริษัทที่ทํากิจการอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคและบริโภคนั้น สามารถวิเคราะห์ได้ว่า การเพิ่มค่าแรง 0.3 – 0.4% จะทําให้รายได้ลดลง 0.7 – 2.2% ค่าจ้างแรงงานของเหล่าบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคในลิสต์ SGX คํานวณได้ 44 % จากค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมด [su_spacer size=”20″]
นักวิเคราะห์จาก UOB เปรียบมาตรการที่รัดกุมของกระทรวงแรงงานเหมือนกับการขึ้นราคาของร้านอาหารทะเล Jumbo และคาดการณ์ว่า จะลากยาวไปถึงผลลัพธ์ทางการเงินของปี 2563 ที่น้อยกว่า 4% โดยแนะนําว่า ผลกระทบจากผลกําไรจะส่งผลในวงกว้างจากบริษัทหนึ่งไปยังบริษัทหนึ่ง เขากล่าวว่า สมมติว่า ร้าน Jumbo อยู่ที่ 40% จากนั้นลดลงไปที่ 38% เป็นไปได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ทางการเงินถึง 1% – 3% ถ้าถูกแทนที่ด้วยค่าจ้างแรงงานชาวต่างชาติที่ต่ำกว่า [su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี บริษัทต่าง ๆ ยังยื้อเวลาการปรับสัดส่วนให้ลดน้อยลง เขาคาดว่าแนวทางอื่นของบริษัท ต่าง ๆ อาจจะมีการกําจัดคู่แข่ง เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นมีรายได้ลดลงมากที่สุดในไตรมาสล่าสุดอันมีผลมากจากการที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดมากขึ้น [su_spacer size=”20″]
ผู้ประกอบการศูนย์อาหาร เช่น Koufu หรือ Breadtalk จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เพราะรูปแบบด้านธุรกิจนี้ต้องการแรงงานเพียงเล็กน้อยและมีการใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับบรรดาร้านอาหารขนาดใหญ่ [su_spacer size=”20″]
บริษัทใหญ่ ๆ เองก็จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเช่นกัน เพราะสามารถนําเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้แทนได้ หรือบริษัทที่มีการติดต่อกับคู่ค้าต่างประเทศและมีอัตรา DRC ที่ต่ำกว่าที่กําหนดลิมิตอยู่แล้ว ทางร้าน Breadtalk, Jumbo และ Koufu นั้นมีการเติบโตทางรายได้ภาพรวมที่คาดไว้คือ 3 – 5% ต่อปีของปีงบประมาณ 2562 และ 2563 [su_spacer size=”20″]
นักวิเคราะห์คาดหวังว่า บริษัท start up เล็ก ๆ จะสามารถปรับปรุงผลกําไรได้ เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว มีร้านค้าขนาดเล็กเปิดจํานวนมาก หลายบริษัทเองก็พยายามหาหนทางเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิตด้วยกําลังการผลิตที่สูงขึ้นหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น Koufu มีหุ่นยนต์เก็บถาดอัตโนมัติที่ศูนย์อาหารและล่าสุดยังมีหุ่นยนต์ที่สามารถล้างจานได้ด้วย [su_spacer size=”20″]
ร้านอาหารในปัจจุบันกําลังมุ่งไปที่การใช้ระบบบริการตัวเองอย่าง Kiosks มากขึ้น การใช้ iPad ให้ลูกค้าสั่งอาหารได้เอง มีเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติเพื่อลดค่าจ้างพนักงาน หรือใช้ครัวส่วนกลางเพื่อลดพื้นที่ทําครัวและเก็บที่ไว้สําหรับวางโต๊ะเพิ่มขึ้น [su_spacer size=”20″]
กรณีของร้าน Jumbo ในส่วนของการเปลี่ยนแปลง DRC จะเพิ่มความกดดันเล็กน้อยต่อค่าจ้างพนักงาน แต่ความกดดันนี้จะลดลงเนื่องจากการขยายสาขาของทางร้านไปยังต่างประเทศมากขึ้น ร้าน Jumbo ยังมีรูปแบบเป็นศูนย์กลางของกระบวนการการผลิตรวมอยู่ที่ครัวกลาง มีกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ โดยการว่าจ้างพนักงานท้องถิ่นที่มีทักษะ [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์