Wednesday, May 21, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

EU เร่งออกมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า หวังเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นภายในปี 2573

24/09/2018
in ทันโลก, ยุโรป
0
EU เร่งออกมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า หวังเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นภายในปี 2573
0
SHARES
107
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

                 ปัจจุบัน EU มีกรอบการดําเนินการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ชื่อ 2030 Climate & Energy Framework และ EU ได้กําหนดกรอบการดําเนินการเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรมภายใน EU อย่างต่อเนื่อง โดยประเทศสมาชิก EU จะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% (เทียบกับระดับของปี 2533) ภายในปี 2573 โดยแผนดําเนินงานดังกล่าว ได้ระบุกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การควบคุม ได้แก่ 1) กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้ระบบEUETS ได้แก่ อุตสาหกรรมเคมีและเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ และอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า และ 2) กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบ EUETS ได้แก่ การ คมนาคมขนส่ง (ยกเว้นการบิน) การเคหะ การเกษตรกรรม และการจัดการของเสีย โดยทั้ง 2 กลุ่ม อุตสาหกรรมจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 43% และ 30% ภายในปี 2573 ตามลําดับ (เทียบกับ ระดับของปี 2548) [su_spacer size=”20″]

                 ทั้งนี้ ภาคการขนส่งทางบก (road transport) ของ EU ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ส่งผลให้ EU ออกมาตรการจํากัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์เป็นอันดับต้น จากรายงานขององค์กร European Environment Agency (EEA) เมื่อปี 2557 ระบุว่า ภาคการขนส่งทางบกของ EU ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก ที่สุดถึง 72.8% เมื่อเทียบกับการภาคการขนส่งอื่นๆ ได้แก่ ทางน้ำ 13% ทางอากาศ 13.1% ทางรถไฟ 0.69% และอื่นๆ 0.5% ผนวกกับปัญหาละเมิดมาตรฐานการปล่อยไอเสียเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อปี 2558 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “คดี Dieselgate” ส่งผลให้ EU เร่งออก มาตรการแก้ไขปัญหาทั้งด้านมาตรฐานการตรวจสอบการปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์ ไปจนถึงการกําหนด ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนั้น EU ได้เสนอร่างปรับปรุงกฎระเบียบด้านมาตรฐานการปล่อยก๊าซ CO2  เร่งส่งเสริมรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วยมาตรฐานการปล่อยก๊าซของรถโดยสารส่วนบุคคลและรถตู้ที่ผลิตใหม่ (new passenger cars and new light Commercial vehicles) เพื่อกําหนดเป้าหมายสําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์หลังปี 2563 โดยเน้น 2 มาตรการ หลัก คือ 1) การกําหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซCO ให้ได้ 30% ภายในปี 2573 (เมื่อเทียบกับระดับ ของปี 2564) และ 2) กําหนดมาตรการส่งเสริมการผลิตรถที่ไม่มีการปล่อยก๊าซหรือปล่อยก๊าซต่ำ (Zero and Low Emission Vehicles: ZLEV) เช่น การผ่อนปรนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซสําหรับบริษัทผู้ผลิตที่สามารถผลิตรถประเภท ZLEV ได้เกินเป้าหมาย (15% ในปี 2568 และ 30% ในปี 2573 ของการผลิตทั้งหมด) ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมของสภายุโรป (ENV) ได้เสนอให้เพิ่มเป้าหมายการปล่อยก๊าซ CO2 เป็น 20% ภายในปี 2568 และ 45% ภายในปี 2573 ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ประเภท ZLEV เป็น 20% ภายในปี 2568 และ 40% ภายในปี 2573 [su_spacer size=”20″]

                 อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ในยุโรปไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายที่สูงมากจนเกินไป และเรียกร้องให้EU ผ่อนคลายเป้าหมายเพื่อให้เวลากับภาคอุตสาหกรรมในการปรับตัว เพราะอาจส่งให้มีผู้ตกงานจํานวนมาก และผู้บริโภคเองยังไม่พร้อมที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพง โดยจากสถิติขององค์กร European Alternative Fuels Observatory ระบุว่า ปัจจุบันยอดขายใน EU ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ (BEV) และแบบ Plug-in คิดเป็น 1.75% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดเท่านั้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 0.75% โดยบริษัทผู้ผลิตมองว่ามาตรการอุดหนุดของรัฐ และจํานวนสถานีชาร์จไฟ (charging stations) เป็นปัจจัยสําคัญในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ ร่างกฎระเบียบฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภายุโรปสมัยสามัญในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ก่อนส่งกลับไปที่คณะกรรมาธิการยุโรปปรับแก้และเสนอต่อคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปให้ความเห็นชอบร่วมกับสภายุโรปก่อนบังคับใช้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแก้ไขรายละเอียดของร่างกฏระเบียบเพิ่มเติม [su_spacer size=”20″]

                 การปรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซและการเพิ่มสัดส่วนการผลิตรถยนต์ประเภท ZLEV เป็นมาตรการส่งเสริมให้มีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด EU มากขึ้น เป็นสัญญาณให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต้องปรับตัว เพราะไม่ว่าเป้าหมายที่ EU กําหนดจะเป็นเท่าไหร่ ก็จะส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตหันมาผลิตรถยนต์ประเภท ZLEV เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles) หรือรถเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Vehicles) มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่ยุโรปที่ออกนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงตลาดใหญ่อื่นๆ อย่างเช่น สหรัฐฯ และจีน ที่มีทิศทางนโยบายเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต รถยนต์ของโลก เพราะความต้องการชิ้นส่วนประเภทที่เกี่ยวข้องกับระบบเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบระบาย ไอเสีย ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จําเป็นอีกต่อไป [su_spacer size=”20″]

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ / คผท. ประจําสหภาพยุโรป

Tags: EUEV
Previous Post

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมนีภายในงาน Automechanika

Next Post

บริษัทของไทยได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดให้แก่ดาวเทียม Bangabandhu-1

mackeyrisen

mackeyrisen

Next Post
บริษัทของไทยได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดให้แก่ดาวเทียม Bangabandhu-1

บริษัทของไทยได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดให้แก่ดาวเทียม Bangabandhu-1

Post Views: 996

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

จีนเปิดทางนำเข้าสุกรพันธุ์จากเดนมาร์ก กว่างซีชูสนามบินกุ้ยหลินเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ปศุสัตว์

จีนเปิดทางนำเข้าสุกรพันธุ์จากเดนมาร์ก กว่างซีชูสนามบินกุ้ยหลินเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ปศุสัตว์

19/05/2025
ทรัมป์เตรียมเก็บภาษีหนังต่างประเทศ 100% แคนาดาวิตกกระทบแรงงานและเศรษฐกิจ

ตอนที่ 2 : ปัจจัยความสำเร็จของ YRD ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ 

15/05/2025
ทรัมป์เตรียมเก็บภาษีหนังต่างประเทศ 100% แคนาดาวิตกกระทบแรงงานและเศรษฐกิจ

ทรัมป์เตรียมเก็บภาษีหนังต่างประเทศ 100% แคนาดาวิตกกระทบแรงงานและเศรษฐกิจ

15/05/2025
สถานการณ์เศรษฐกิจอาเซอร์ไบจาน ปี 2567 และแนวโน้ม ปี 2568 

สถานการณ์เศรษฐกิจอาเซอร์ไบจาน ปี 2567 และแนวโน้ม ปี 2568 

14/05/2025
Update! เศรษฐกิจสำคัญของรัฐไบเอิร์น เยอรมนี

Update! เศรษฐกิจสำคัญของรัฐไบเอิร์น เยอรมนี

14/05/2025
ครบรอบ 60 ปี! แห่งการก่อตั้งสิงคโปร์ 

ครบรอบ 60 ปี! แห่งการก่อตั้งสิงคโปร์ 

14/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X