เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พร้อมด้วยอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านพาณิชย์ ได้พบกับนาย Navid Veiseh, Senior Vice President for Global eCommerce ของบริษัท Coupang เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท Coupang เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมีช่องทางจําหน่ายสินค้าในตลาดเกาหลีใต้ผ่านระบบออนไลน์[su_spacer size=”20″]
Coupang เป็นบริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในฐานะบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี (Tech Startup) เมื่อปี 2553 ปัจจุบันมีสินค้าอยู่บน platform จํานวนกว่า 8 ล้านรายการ มีสมาชิกจํานวนกว่า 27.6 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรเกาหลีใต้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักเป็นสุภาพสตรี ร้อยละ 68 และมียอดจําหน่ายประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้ Coupang มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ (Initial Public Ofering – IPO) และขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [su_spacer size=”20″]
Coupang ถือเป็นหนึ่งใน 4 บริษัทอีคอมเมิร์ซทั่วโลก (นอกเหนือจาก Jingdong (จีน) Flipkat (อินเดีย) และ Amazon (สหรัฐฯ) ที่มีตัวแบบทางธุรกิจในลักษณะอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร (Fulfillment eCommerce) ซึ่งรับผิดชอบการดําเนินการและบริหารจัดการในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง อาทิ การพิจารณาคัดเลือกและรับซื้อสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง การออกแบบหีบห่อ และบรรจุภัณฑ์ การแปลและจัดทําฉลากสินค้าเป็นภาษาเกาหลี การจัดทํารายการสินค้า การจัดการคําสั่งซื้อ และการจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ เมื่อปี 2559 สถาบัน MIT ได้จัดอันดับให้ Coupang เป็นหนึ่งใน Top 50 Smartest Companies ของโลก และนิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับให้นายคิม บอม (Kim Bom) CEO ของบริษัท Coupang เป็นหนึ่งใน Top 30 Global Game Changers[su_spacer size=”20″]
ภารกิจที่ Coupang ให้ความสําคัญสูงสุดและได้กลายเป็นจุดแข็งของ Coupang ได้แก่ การพัฒนารูปแบบการให้บริการโดยเฉพาะกระบวนการชําระเงินและการจัดส่งสินค้าที่สะดวกรวดเร็ว และเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภคเกาหลีใต้ ปัจจุบัน Coupang มีศูนย์กระจายสินค้าจํานวนกว่า 50 แห่งทั่วเกาหลีใต้ และมีระบบการจัดส่งสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีชื่อว่า “Rocket Delivery System” โดยผู้บริโภคที่สั่งซื้อสินค้าผ่านระบบดังกล่าวภายในเวลา 24.00 น. ของวันนี้ จะได้รับสินค้าในวันถัดไป ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2561 Coupang จะเริ่มให้บริการระบบการส่งสินค้ารูปแบบใหม่ที่สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม หรือภายในระยะเวลา 6 ชม. โดยในระบบใหม่ หากสมาชิกสั่งซื้อสินค้าก่อนเวลา 24.00 น. ของวันนี้ จะได้รับสินค้าภายในเวลา 6.00 น. ของวันถัดไป และหากสั่งซื้อสินค้าก่อนเวลา 12.00 น. จะได้รับสินค้าภายในเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน [su_spacer size=”20″]
Coupang เริ่มจําหน่ายสินค้าไทยบน platform ออนไลน์ครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 ซึ่งต่อมาได้ขยายความร่วมมือกับบริษัทผู้นําเข้าเกาหลีใต้ในการคัดเลือกและหาซื้อสินค้าไทยเพื่อสินค้าดังกล่าว มาจัดจําหน่ายบน platform ออนไลน์ให้มากขึ้น โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 Coupang ได้เปิดให้บริการ ส่วนร้านจําหน่ายสินค้าไทย (Thai Store) อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ปัจจุบัน Thai Store มีสินค้าไทยอยู่ประมาณ 900 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอาหาร ซึ่งนําเข้าผ่านบริษัทผู้นําเข้าเกาหลีใต้ จํานวน 47 ราย โดยบริษัทผู้นําเข้าที่นําเข้าสินค้าไทยใน Thai Store มากที่สุด ได้แก่ บริษัท K-Holdings ซึ่งที่ผ่านมามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศประจำกรุงโซล (สคต. ประจำกรุงโซล) [su_spacer size=”20″]
Coupang มีกลยุทธ์และวิธีการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยผ่านช่องทางที่หลากหลาย อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่าน social media การแจ้งเตือนในแอพลิเคชั่น และการส่งสินค้าตัวอย่างให้สมาชิกทดลองใช้และบริโภค ปัจจุบัน Coupang และบริษัท K-Holdings ร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสําหรับการทําการตลาด/และประชาสัมพันธ์ในสัดส่วน ร้อยละ 80 และ ร้อยละ 20 ตามลําดับ ทั้งนี้ Coupang ประเมินว่า Thai Store จะมียอดจําหน่ายประมาณ 400 ล้านวอนต่อเดือน โดยในอนาคต Coupang ต้องการที่จะขยายขอบเขตของสินค้าใน Thai Store ไทยให้ครอบคลุมสินค้าประเภทอื่น ๆ อาทิ สินค้าสปา สินค้าไลฟสไตล์ และของแต่งบ้านด้วย [su_spacer size=”20″]
Coupang ยินดีที่ได้รับความร่วมมือจาก สคต. ประจำกรุงโซล และเห็นควรกําหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์การทํางานร่วมกันระหว่าง Coupang กับ สคต. ประจำกรุงโซล ในระยะยาว โดยอาจกําหนดกรอบระยะเวลาเป็นราย 5 ปี อาทิ เป้าหมาย ค.ศ. 2020 และ 2025 ซึ่ง สคต. ประจำกรุงโซล เห็นพ้อง [su_spacer size=”20″]
สคต. ประจำกรุงโซล ยินดีอํานวยความสะดวก ประสานงานและแนะนําให้เจ้าหน้าที่ Coupang รู้จัก ผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทย เพื่อคัดเลือกและนําเข้าสินค้าไทยโดยตรง (ไม่ผ่านผู้นําเข้า) และพร้อมสนับสนุนการจัดคณะเจ้าหน้าที่ จาก Coupang เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และเพื่อคัดเลือกและนําเข้าสินค้า ซึ่ง Coupang ยินดีและขอบคุณในการสนับสนุน [su_spacer size=”20″]
สคต. ประจำกรุงโซล เชิญผู้บริหาร Coupang เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการความร่วมมือ ด้านอีคอมเมิร์ซระหว่างไทย-กลต. ในระหว่างการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 17 – 19 กันยายน 2561 โดยจะระบุถึงโครงการ Thai Store ของ Coupang ด้วย ซึ่ง Coupang ตอบรับ [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่มีธุรกิจอีคอมเมิร์ซใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก รองจากจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ ด้วยอัตราการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ที่กําลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเกาหลีใต้จะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ของโลกภายในปี 2563 [su_spacer size=”20″]
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เปลี่ยนแปลงไปของชาวเกาหลีใต้ ส่งผลให้ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้กําลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีความเป็นไปได้ที่ในระยะเวลาอันใกล้ Coupang จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศแทนที่บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ดั้งเดิม อาทิ กลุ่ม Shinsegae และ Lotte ซึ่งเน้นการดําเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล