คณะทํางาน Ease of Doing Business Task Force ได้ปรับปรุงขั้นตอนกฎระเบียบการเริ่มต้นธุรกิจในฟิลิปปินส์ โดยนําระบบ One-Stop Shop และระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการลงทะเบียนและชําระค่าธรรมเนียม รวมถึงลดขั้นตอนที่ไม่จําเป็นและซ้ำซ้อน ส่งผลให้สามารถลดขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ จากเดิม 16 ขั้นตอน และใช้ระยะเวลา 28 วัน เป็น 10 ขั้นตอน โดยใช้ระยะเวลา 16 วัน ทั้งนี้ กระบวนการเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าวยังใช้เฉพาะในเขตเมืองเกซอน ซิตี้ (ศูนย์ราชการของฟิลิปปินส์อันส่วนหนึ่งของ กรุงมะนิลา)[su_spacer size=”20″]
โดย Ease of Doing Business Task Force เป็นคณะทํางาน ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 โดยอดีตประธานาธิบดี อาคีโน เพื่อดําเนินการและติดตามการปฏิรูปขั้นตอนการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ภายหลังจากที่ฟิลิปปินส์ถูกจัดให้อยู่ในลําดับที่ 138 (จากทั้งหมด 185 เขตเศรษฐกิจ) ในรายงาน Doing Business Report ประจําปี 2556 ของธนาคารโลก (ลําดับที่ 8 ในภูมิภาคอาเซียน) ประกอบกับฟิลิปปินส์ถูกจัดให้อยู่ในลําดับที่ต่ำกว่า 130 มาเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ทั้งนี้ คณะทํางานดังกล่าวมีรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและกระทรวงอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์เป็นประธาน และมี National Competitiveness Council (NCC) รวมถึงสมาชิกจากทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นคณะทํางานด้วย[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ รายงาน Doing Business Report ของธนาคารโลกฉบับล่าสุด ประจําปี 2561 จัดให้ฟิลิปปินส์อยู่ลําดับที่ 113 จากทั้งหมด 190 เขตเศรษฐกิจ (ลดลงจากลําดับที่ 99 ในปี 60 และเป็นลําดับที่ 7 ในภูมิภาคอาเซียน) โดยมีผลการจัดอันดับลดลงใน 9 ตัวชี้วัด จากทั้งหมด 10 ตัวชี้วัด ได้แก่ ลําดับที่ 173 สําหรับการเริ่มต้นธุรกิจ ลําดับที่ 101 สําหรับการขออนุญาตก่อสร้าง ลําดับที่ 31 สําหรับการขอใช้ไฟฟ้า ลําดับที่ 114 สําหรับการจดทะเบียนทรัพย์สิน ลําดับที่ 142 สําหรับการได้รับสินเชื่อ ลําดับที่ 99 สําหรับการค้าระหว่างประเทศ ลําดับที่ 146 สําหรับการคุ้มครอง ผู้ลงทุน ลําดับที่ 149 สําหรับการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และลําดับที่ 59 สําหรับการแก้ปัญหาล้มละลาย โดยมีผลการจัดลําดับดีขึ้นเฉพาะเรื่องการชําระภาษี (ลําดับที่ 105) อันเป็นผลจากการเพิ่มช่องทางการชําระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ Philippine Health Insurance Corp และกองทุนรวม Home Development Mutual Fund นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังเห็นว่า กฎระเบียบของฟิลิปปินส์บางส่วนยังไม่เอื้อต่อการดําเนินธุรกิจของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยเฉพาะในการเริ่มต้นธุรกิจ การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และการคุ้มครองผู้ลงทุน[su_spacer size=”20″]
อนึ่ง ฟิลิปปินส์ตั้งเป้าที่จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ลําดับ 38 ของการจัดอันดับดังกล่าวภายในปี 2565 (สิ้นสุดวาระการดํารง ตําแหน่ง ของประธานาธบดี ดูแตร์เต) โดยการปรับลดขั้นตอนกฎระเบียบการเริ่มต้นธุรกิจตามข้อ 1 เป็นหนึ่งในมาตรการที่ฟิลิปปินส์เร่งดําเนินการเพื่อลดความยุ่งยากในการดําเนินธุรกิจในฟิลิปปินส์[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา