ในด้านภาพรวมทางเศรษฐกิจ IBM คาดว่า ในปี 2561 เศรษฐกิจคิวบาจะเติบโตร้อยละ 0.7 โดยการส่งออกมีแนวโน้มที่จะลดลง เนื่องจากคิวบาขาดน้ำมันสำหรับการแปรรูปส่งออก ประสบปัญหาราคาน้ำตาลและนิกเกิลตก การขาดเงินสกุลหลัก (hard currency) และการลดลงของการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ห้ามภาคเอกชนสหรัฐฯ ทำธุรกิจใด ๆ กับบริษัทที่รัฐบาลคิวบาเป็นเจ้าของ ซึ่งครอบครองกิจการในเกือบทุกสาขาเศรษฐกิจของคิวบาในปัจจุบัน โดยสาขาท่องเที่ยวน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด[su_spacer size=”20″]
ในส่วนของการเงิน ปัจจุบันคิวบามีค่าเงิน 2 สกุล ได้แก่ CUP มีราคาต่ำ ใช้จ่ายเงินเดือนคนท้องถิ่นและการซื้อขายสินค้ายังชีพทั่วไปและ CUC มีราคาสูง ใช้คิดค่าสินค้าและบริการชาวต่างชาติ อาทิ นักท่องเที่ยวและบริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในคิวบา ทั้งนี้ พรรค PCC มีแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากการรวมค่าเงิน 2 สกุลข้างต้นเพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินผันผวนที่อาจเกิดขึ้นหากพรรคดำเนินการปฏิรูปในด้านอื่น ๆ ต่อไป รวมถึง ที่ผ่านมา ระบบ dual currency ทำให้แรงงานฝีมือดีย้ายไปทำงานในภาคส่วนท่องเที่ยวเพื่อรับเงินเป็น CUC แทน CUP เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียบกันทางสังคม อย่างไรก็ตาม การรวมค่าเงิน ซึ่งเป็นโยบายที่สำคัญของรัฐบาลคิวบา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ อาจจะเลื่อนออกไปอีกระยะหนึ่งได้ อีกทั้งการรวมค่าเงินจะทำให้ค่าเงินของคิวบาลดลง ส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นด้วย[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ คิวบาประสบปัญหาการขาดการอุดหนุนด้านน้ำมันจากเวเนซุเอลาและการประกาศปรับนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ ต่อคิวบาเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ ในคิวบาลดลง FDI ในภาคส่งนท่องเที่ยวลดลง และเศรษฐกิจภาพรวมเติบโตได้ไม่มาก [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก