อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 260ล้านคน ส่งผลให้อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีนักลงทุนจากต่างประเทศให้ความสนใจเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ พลังงาน สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน สินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมมาแรงที่นักลงทุนจากต่างประเทศจับตามอง[su_spacer size=”20″]
นอกจากอินโดนีเซียจะมีประชากรจำนวนมากแล้ว ยังมีหมู่เกาะจำนวนมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีจำนวนรวมกว่า 17,000 เกาะ และส่วนใหญ่ยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้มีความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่โด่งดังไปทั่วโลกคงหนีไม่พ้น เกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวที่ถือเป็นหัวใจหลักของอินโดนีเซียและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเยือนในแต่ละปี นำมาซึ่งเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของอินโดนีเซียจำนวนมหาศาล[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี อินโดนีเซียยังมีเกาะอีกจำนวนมากที่ยังมีศักยภาพและน่าสนใจ รอให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปลงทุน ซึ่งเกาะที่ถือได้ว่ามีศักยภาพและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่สนใจตลาดการท่องเที่ยวในอินโดนีเซีย คือ เกาะบินตัน (Bintan) และเกาะบาตัม (Batam) ซึ่งเป็น 2 เกาะขนาดใหญ่ในหมู่เกาะเรียว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสุมาตรา และอยู่ทางตอนใต้ของสิงคโปร์[su_spacer size=”20″]
เกาะบินตัน เป็นเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ เนื่องจากสามารถเดินทางโดยเรือข้ามฟาก (Ferry) จากสิงคโปร์มายังเกาะบินตัน ในเวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะนิยมมาเที่ยวในเขตลากอย (Lagoi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยในปี ๒๕๖๐ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนถึง ๗๑๒,๐๐๐ คน เพิ่มจากปี ๒๕๕๙ ที่มีนักท่องเที่ยวเยือนประมาณ ๕๕๐,๐๐๐ คน ในขณะที่ เกาะบาตัม ก็เป็นเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และญี่ปุ่น สามารถเดินทางโดยเรือข้ามฟาก (Ferry) จากสิงคโปร์มายังเกาะบินตัน ในเวลา 1 ชั่วโมง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเฉลี่ย 1.5 ล้านคนต่อปี และเป็นสถานที่สำหรับการลงทุนที่สำคัญของนักธุรกิจสิงคโปร์ ในฐานะศูนย์กลางของอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ โรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์ซ่อมแซมเรือ และอุตสาหกรรมน้ำมัน เป็นต้น ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของเกาะบินตันและเกาะบาตัม ส่งผลให้รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดให้เกาะทั้งสองเป็นพื้นที่เขตการค้าเสรี (free trade zone) อีกด้วย[su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน เกาะบินตันและเกาะบาตัมเป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์ โดยเมื่อปี 2559 สิงคโปร์ลงทุนทั้งสิ้น 26 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 65.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี เกาะบินตันและเกาะบาตัมยังเป็นดินแดนแห่งโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจในตลาดแห่งนี้ โดยเฉพาะเกาะบินตันที่เน้นไปทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐของอินโดนีเซียเตรียมที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะแผนการลงทุนก่อสร้างสนามบิน นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐท้องถิ่นของเกาะบินตันยังสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม MICE และแผนการพัฒนาโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้นักลงทุนไทยมีศักยภาพ สามารถเข้าไปลงทุนในภาคธุรกิจสถานบันเทิง รวมถึงโรงแรมและรีสอร์ทระดับสากล ในขณะที่เกาะบาตัมถือเป็นเกาะที่มีศักยภาพสำหรับนักลงทุนไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐของเกาะบาตัมได้ให้บริการออกใบอนุญาตสำหรับการลงทุนภายใน 3 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติซึ่งมีแผนการลงทุนจำนวนประมาณไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 3.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นต้น [su_spacer size=”20″]
ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา