เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ได้มีการจัดงานแถลงข่าวโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้า (E-mobility Ecosystem Partnership) ระหว่าง Hong Kong Investment Corporation Limited (HKIC) กับ บริษัท Spark EV จํากัด ซึ่งร่วมมือกับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น ในการติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าที่ศูนย์บริการน้ํามันบางจาก
บริษัท Spark EV เป็นกิจการร่วมค้าที่จัดตั้งในประเทศไทย โดยมีบริษัท Cornerstone Technologies Holding ของฮ่องกงเป็นเจ้าของเงินทุน และ HKIC ร่วมทุนด้วย ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะเช่าพื้นที่ภายในศูนย์บริการน้ํามันบางจาก โดยมีระยะเวลาเช่า 10 ปี เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Ultra-fast Charging กําลังชาร์จสูงสุด 540 กิโลวัตต์ โดยมีเป้าหมายในการติดตั้งสถานีชาร์จให้ครบ 250 แห่ง ภายในกลางปี 2568 และ 1,000 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จของ Spark EV เปิดให้บริการในศูนย์บริการน้ํามันบางจากแล้ว 3 แห่งใน กทม. และหัวหิน และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกประมาณ 20 แห่ง ได้ ทั้งนี้ โครงการฯ มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทฯ จะยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ต่อไป
ภูมิหลังของ HKIC
ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงประกาศจัดตั้ง HKIC ในการแถลงนโยบายประจําปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนําเงินทุนสํารองของฮ่องกงไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการลงทุนในธุรกิจสาขายุทธศาสตร์ ที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของฮ่องกง สนับสนุนภาคเอกชนที่สนใจพัฒนาธุรกิจในฮ่องกง และส่งเสริมบทบาทของฮ่องกงในต่างประเทศ
โดยปัจจุบัน HKIC บริหารจัดการกองทุนของ รัฐบาลฮ่องกง 4 กองทุน ได้แก่ กองทุน Hong Kong Growth Portfolio / Greater Bay Area Investment Fund/non Strategic Tech Fund และกองทุน Co-Investment Fund มูลค่ารวม 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยมุ่งลงทุนในธุรกิจสาขายุทธศาสตร์ 3 สาขา ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ ไบโอเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งโครงการความร่วมมือดังกล่าวเป็นการลงทุนในต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ มีโครงการแรกของ HKIC ที่ได้ลงทุนในธุรกิจฮ่องกงและจีน 3 โครงการ ได้แก่ (1) การสนับสนุน บริษัท SmartMore ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพยูนิคอร์นด้านปัญญาประดิษฐ์ของฮ่องกงเพื่อขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ GBA (2) การสนับสนุนบริษัท BioMap ของจีน ซึ่งดําเนินธุรกิจด้าน bio-computing เพื่อขยายธุรกิจในฮ่องกง และ (3) การสนับสนุน บริษัท Galbot ของจีน ซึ่งดําเนินธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อขยายธุรกิจในฮ่องกง
นโยบายด้านยานยนต์ไฟฟ้าของฮ่องกง
ฮ่องกงมีอัตราการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และรัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนภาษีการจดทะเบียนยานยนต์ครั้งแรก (First Registration Tax: FRT) สําหรับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล มูลค่าไม่เกิน 172,500 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึง 31 มีนาคม 2569 ส่งผลให้ยานยนต์ที่จดทะเบียนใหม่ ในฮ่องกงกว่าร้อยละ 65 เป็นยานยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนั้น ฮ่องกงมีผู้ประกอบการด้านยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดที่มีเทคโนโลยีล้ําสมัย (cutting-edge techology) ในอุตสาหกรรมเป็นจํานวนมาก โดยมีฐานการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ในจีน ดังนั้น รัฐบาลฮ่องกงจึงมีนโยบายส่งเสริมบทบาทด้านเทคโนโลยีสีเขียวในภูมิภาค และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแสวงหา โอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง
โครงการความร่วมมือฯ ระหว่างไทยกับฮ่องกง
ความร่วมมือระหว่าง HKIC กับบริษัท Spark EV เป็นการลงทุนในต่างประเทศ โดยโครงการแรกของ HKIC สะท้อนว่าฮ่องกงให้ความสําคัญกับไทยในฐานะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สําคัญ รวมทั้งไทยมีพัฒนาการด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่นกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค โดยไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าครบทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ นโยบาย 30@30 ซึ่งระบุว่าร้อยละ 30 ของยานยนต์ที่ผลิตในไทยจะต้องเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ภายในปี 2573
โดยโครงการความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นส่วนสําคัญในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสีเขียว เทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้าและ พลังงานสะอาดระหว่างไทยกับฮ่องกง
ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์