เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ณ ท่าเรืออัลเฆซีราส จังหวัดกาดิซ แคว้นอันดาลูเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของสเปน สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปนและสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงก่อสร้างเส้นทางระเบียงไฮโดรเจนสีเขียวทางทะเล หรือ South-North Europe Green Hydrogen Maritime Corridor เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาพลังงานจากนอกภูมิภาคยุโรป ซึ่งเป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างเส้นทางเชื่อมโยงใหม่ของการขนส่งไฮโดรเจนสีเขียวระหว่างยุโรปใต้-เหนือ โดยผ่านท่าเรืออัลเฆซีราส (สเปน) และท่าเรือรอตเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 บริษัท ได้แก่ 1) บริษัท Cepsa (สเปน) ซึ่งจะทำการผลิตแอมโมเนียสีเขียว (NH3) จากโรงงานของบริษัทฯ ที่ Andalusian Green Hydrogen Valley ในแคว้นอันดาลูเซีย 2) บริษัท Yara Clean Ammonia (นอร์เวย์) ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่งแอมโมเนียสีเขียวทางเรือจากท่าเรืออัลเฆซีราสไปยังท่าเรือรอตเตอร์ดัม และ 3) บริษัท Gasunie (เนเธอร์แลนด์) ซึ่งจะเป็นผู้ขนส่งไฮโดรเจนสีเขียว (H2) (ภายหลังจากที่ได้ทำการเปลี่ยนสภาพแอมโมเนียสีเขียวให้เป็นไฮโดรเจนสีเขียวแล้ว) ผ่านท่อขนส่งจากท่าเรือรอตเตอร์ดัมไปยังประเทศยุโรปอื่น ๆโดยเฉพาะเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ซึ่งมีความต้องการด้านพลังงานสูง
ในส่วนของการก่อสร้าง Andalusian Green Hydrogen Valley จะเป็นพื้นที่ในการผลิตไฮโดรเจน/แอมโมเนียสีเขียว โดยขณะนี้ บริษัท Cepsa กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนาด้านวิศวกรรม ขั้นพื้นฐานและดำเนินการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ใน ปี ค.ศ. 2026 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ โครงการ Andalusian Green Hydrogen Valley เป็นพื้นที่สำหรับการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ภายใต้งบลงทุน 3,000 ล้านยูโร โดยจะมีการสร้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่ง และสามารถผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ 300,000 ตัน/ปี ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 6 ล้านตัน/ปี และจะทำให้สเปนเป็นกลายประเทศที่มีบทบาทนำในเรื่องของการเปลี่ยนผ่านพลังงานทดแทนของยุโรปในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัท Cepsa ยังมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานผลิตแอมโมเนียสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่อุทยานพลังงาน San Roque จังหวัดกาดิซอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีกำลังผลิตแอมโมเนียสีเขียว 750,000 ตัน/ปี ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านยูโร สามารถสร้างงานได้กว่า 3,300 ตำแหน่ง และจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 3 ล้านตัน/ปี ด้วย
อนึ่ง ตามข้อมูลของบริษัท Cepsa ระบุว่า ไฮโดรเจนสีเขียวเป็นแหล่งพลังงานที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง ได้ถึงกว่าร้อยละ 90 ทั้งนี้ คาดว่า ในปี ค.ศ. 2050 ไฮโดรเจนสีเขียวจะเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งทางบกทั่วโลกมากถึง 1/3 ของพลังงานเชื้อเพลิงทั้งหมด และมีการใช้ในการขนส่งทางทะเลถึงร้อยละ 60 รวมทั้งจะเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ใช้จัดเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย
ติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่ https://bic-madrid.thaiembassy.org
บทความที่เกี่ยวข้อง โครงการ H2Med ท่อขนส่งไฮโดรเจนสีเขียวแห่งแรกของอียู
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด