เศรษฐกิจออสเตรเลียมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2564 – 2565 เศรษฐกิจออสเตรเลียเติบโตร้อยละ 4.4 รัฐบาลออสเตรเลียคาดการณ์ว่า ปีงบประมาณ 2565 – 2566 เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 10.75 แต่จะหดตัวลดลงร้อยละ 0.5 ในปีงบประมาณ 2566 – 2567 และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงร้อยละ 5.25 ในปีงบประมาณ 2567 – 2568 จากการคาดการณ์ข้างต้น รัฐบาลออสเตรเลียจึงได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 49,869 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สำคัญ ดังนี้
(1) การกระตุ้นการลงทุน ขยายระยะเวลาการให้สิ่งจูงใจแก่ธุรกิจ เช่น การให้นำมูลค่าสินทรัพย์ที่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้มาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อขอลดหย่อนภาษี การอนุญาตให้ธุรกิจที่มีผลขาดทุนสามารถขอคืนภาษีจากผลกำไรที่จ่ายไปในปีก่อนหน้า (temporary loss carry-back) และการขยายสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รัฐบาลออสเตรเลียคาดการณ์ว่า การขยายระยะเวลามาตรการเหล่านี้จะช่วยลดภาระด้านภาษีแก่ภาคธุรกิจประมาณ 20,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และช่วยสนับสนุนการลงทุนทางธุรกิจ 320,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย รวมถึงก่อให้เกิดการจ้างงาน 60,000 อัตรา
(2) การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดเล็กที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียที่สำคัญ เช่น การลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนและการฝึกอบรมทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยคาดการณ์ว่ามาตรการข้างต้นจะสามารถช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศ ซึ่งมีลูกจ้างประมาณ 8 ล้านคน
(3) การลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน 17,900 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อขยายการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงการใหม่และโครงการเดิม โดยเน้นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่งจากการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าวส่งผลให้มูลค่ารวมของแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 10 ปีของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจาก 110,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น 120,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
(4) การสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วงเงิน 146.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อช่วยสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว จัดทำโครงการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติสำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดพรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลีย และดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ THRIVE 2030 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มเป็น 230,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปี 2573
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังได้จัดสรรงบประมาณ วงเงิน 1,300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยให้ออสเตรเลียบรรลุเป้าหมาย net zero emission ภายในปี 2593 เพื่อบรรเทาต้นทุนและค่าครองชีพแก่ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และครัวเรือน ธุรกิจ
ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียสำหรับ Modern Manufacturing Strategy เพื่อขยายกำลังการผลิตและสร้างรายได้ในภาคการผลิตที่ออสเตรเลียมีศักยภาพ โดย Modern Manufacturing Strategy ริเริ่มเมื่อปี 2563 เพื่อปฏิรูปภาคการผลิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย JobMaker ในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน และฟื้นตัวจากภาวะถดถอยหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ภาคอุตสาหกรรมการเกษตร มีการตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเป็น 100,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียภายในปี 2573 โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 600 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับภาคการเกษตร ประมง และป่าไม้
นอกจากนี้ งบประมาณปี 2565 – 2566 ยังรวมถึงการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยเน้นการจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนนโยบายการค้าเสรี เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกของสินค้าและบริการส่งออกของออสเตรเลีย ส่งเสริมการเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานโลก และสนับสนุนธุรกิจและการสร้างงานในประเทศ โดยมีมาตรการที่สำคัญ ได้แก่
(1) การปรับปรุงระบบการค้าระหว่างประเทศ วงเงิน 187.1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถทำธุรกรรมการค้าได้สะดวกยิ่งขึ้นและต้นทุนลดลง
(2) การขยายระยะเวลาโครงการ Export Market Development Grants (EMDG) โดยจัดสรรเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ส่งออกขนาดย่อมในส่วนภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกล และเพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการในตลาดส่งออกใหม่
(3) การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศศักยภาพสูง รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน 19.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อขยายระยะเวลาการดำเนินงานของ Global Australia Taskforce โดยชื่อเดิมคือ Global Business and Talent Attraction Taskforce
ถึงแม้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะมีแผนกระตุ้นและฟื้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างครอบคลุมและยั่งยืนนั้น หากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 ทางพรรค Labor (พรรคฝ่ายค้าน) เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในครั้งนี้ อาจส่งผลให้งบประมาณประจำปี 2565 – 2566 เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือมีการปรับปรุงแก้ไข โดยจะลดการขาดดุลงบประมาณลง เป็นจำนวน 5,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียภายในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า อาทิ จากการปฏิรูปภาษีบริษัทข้ามชาติจำนวน 1,900 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย