นครหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกตรองตนเองกว่างซีจ้วงถือเป็นหนึ่งใน ‘Hub’ ทางเลือกของการเชื่อมโลกการค้าโดยเฉพาะอาเซียน จีน เอเชียกลางและยุโรปเข้าด้วยกันด้วย
“เส้นทางรถไฟ China-Europe Railway Express” ที่ผ่านมานครหนานหนิงมุ่งมั่นพัฒนาเส้นทางการค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงระบบศุลกากรให้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างนะบบนิเวศน์ทางการค้า และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่นครหนานหนิง ว่า ขนส่งสินค้าไปยุโรป…ไกลกันแค่ปากซอย
ท่ารถไฟระหว่างประเทศหนานหนิง หรือ Nanning International Railway Port เป็น ‘Hub’ ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางรถไฟของนครหนานหนิง โดยเริ่มให้บริการด้านพิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้า-ขาออกแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 มีเขตปฏิบัติการควบคุมตรวจสอบทางศุลกากรเนื้อที่ราว 70.4 ไร่ มีประตูไม้กั้น 12 ช่องจราจร (เข้า-ออก อย่างละ 6 ช่องทาง) ลานตรวจสินค้ามีช่องรถบรรทุก 30 ช่องทาง มีอาคารโดมอเนกประสงค์ 3,060 ตร.ม. มีพื้นที่ลานตู้สินค้าและโกดังอุปกรณ์ตรวจกักกันโรคโดยได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับการขนถ่ายตู้สินค้าได้ปีละ 6 แสน TEUs และมีศักยภาพในการตรวจสอบสินค้าได้ปีละ 65,000 ตู้สินค้าที่ขนส่งผ่านท่ารถไฟแห่งนี้ส่วนใหญ่อยู่ในห่วงโซ่การค้ากับเวียดนาม และเริ่มมีการขนส่งไป สปป.ลาว (ผ่านมณฑลยูนนาน) และเอเชียกลาง (คาซัคสถานและอุซเบกิสถาน)
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องทำให้ความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น จากสถิติการรถไฟ ปี 2565 กว่างซีได้ให้บริการการขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทาง China-Europe Railway Express ทั้งหมด 33 เที่ยว โดยเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2565 พบว่า ในครึ่งปีหลังมีจำนวนเที่ยวเพิ่มขึ้น 53.8% และมีตู้สินค้าเพิ่มขึ้น 57.7% มีการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท ครอบคลุมกว่า 107 ประเภททั้งในกลุ่มเครื่องจักร อาหาร และเคมีภัณฑ์
ในปี 2566 ขบวนรถไฟขนส่งสินค้า China-Europe Railway Express ที่ออกจากนครหนานหนิงอาจมีเพิ่มจำนวนเที่ยวจากเดือนละ 1 เที่ยวเป็นเดือนละ 3 เที่ยว
โอกาสของผู้ประกอบการไทย
ปัจจุบัน จีนให้ความสำคัญกับการขนส่งด้วย “ระบบราง” อย่างมาก และการขนส่งด้วย “ระบบราง” เป็นเครื่องมือใหม่ที่เขตฯ กว่างซีจ้วงใช้เสริมการเป็น “Hub” ขนส่งสินค้าที่เชื่อมจีน (ตะวันก) กับ ประเทศสมาชิก RCEP เอเชียกลางและยุโรป
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์การขนส่งทางราง ซึ่งปัจจุบัน กว่างซีมี platform การขนส่งสินค้าด้วยรถไฟให้เลือกหลากหลาย เช่น “ท่ารถไฟระหว่างประเทศหนานหนิง” และ “ด่านรถไฟผิงเสียง” (วิ่งเชื่อมกับกรุงฮานอย) รวมถึง “ท่าเรือชินโจว” ซึ่งมีระบบขนส่งเชื่อม “เรือ + ราง” ได้ภายในท่าเรือ ด้วยการขนส่งความสะดวกรวดเร็วที่ได้รับจากการใช้บริการตลอดจนต้นทุน เวลาและค่าใช้จ่ายที่ลดลง จึงเป็นโอกาสของภาคธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์จากโครงข่ายการขนส่งทางรถไฟและระบบศุลกากรที่มีศักยภาพและทันสมัยของ ‘กว่างซี’ เพื่อส่งสินค้าไทยไปเจาะตลาดมณฑลต่าง ๆ ในจีน หรือไปตีตลาดเอเชียกลางยุโรปได้โดยง่าย
************************
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์