ธุรกิจห้างค้าปลีก Dollarama ร้านค้าจําหน่ายสินค้าราคาประหยัดชื่อดังและรายใหญ่สุดของแคนาดาซึ่งกําลังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วประเทศ เผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดขยายตัวถึงร้อยละ 21 ด้วยยอดขายรวมเติบโตที่ 1,290 ล้านเหรียญแคนาดา (33.5 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากจํานวนผู้บริโภคที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลให้สินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จนผู้บริโภคต้องมองหาสินค้าที่เน้นราคาประหยัดมากขึ้น
นาย Neil Rossy ผู้บริหารของห้าง Dollarama กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจํานวนธุรกรรม (Transaction) ของร้านแต่ละสาขาพบว่า เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 16 ขณะเดียวกัน มูลค่ายอดซื้อสินค้าของแต่ละใบเสร็จก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสําคัญ เช่น คริสต์มาส อีสเตอร์ ทําให้สินค้าหลายอย่างภายในร้านมียอดจําหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มอาหารแห้ง ของใช้ภายในบ้าน และของใช้ตกแต่งตามเทศกาล เป็นต้น
จากความนิยมห้างค้าปลีกราคาประหยัดที่กําลังได้เปรียบในทางธุรกิจยุคนี้ สะท้อนได้จากเมื่อช่วงไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2566 ห้างค้าปลีก Dollarama ได้มีการเปิดสาขาเพิ่มไป 21 สาขา ทําให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 1,507 แห่งทั่วแคนาดา และมีแผนจะเปิดให้ได้ถึง 2,000 สาขาภายในปี พ.ศ. 2574 นับว่าเป็นการขยายตัวอย่างมากเทียบกับร้านปลีกรายอื่นๆ
โมเดลทางธุรกิจของ Dollarama นับว่ามีส่วนสําคัญที่ส่งให้กิจการประสบความสําเร็จอย่างสูง ซึ่ง Ken Wong ผู้ช่วยศาสตรจารย์วิชาการตลาดจาก Smith School of Business มหาวิทยาลัย Queen รัฐออนทาริโอ เห็นว่า ผู้บริโภคชาวแคนาดาเชื่อมั่นว่าสินค้าที่จําหน่ายในร้าน Dollarama มีราคาถูกกว่าร้านทั่วไป จึงหันไปซื้อสินค้า เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ร้านจึงกลายเป็นที่ต้องการของกลุ่มบริโภคอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงที่สินค้าอุปโภค บริโภคทั้งประเทศปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งแม้กระทั่งสินค้าภายในร้าน Dollarama ก็ได้มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน
นอกจากการขยายสาขาแล้ว ห้าง Dollarama วางแผนที่กระตุ้นยอดขายมากขึ้นโดยการขยายไลน์สินค้าไปสู่หมวดอาหารให้มากขึ้นเพิ่มขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ของสินค้าราคาประหยัดอยู่ โดยทางห้างมีกลยุทธ์ในการคัดสรรสินค้าที่คํานวณแล้วว่ามีกําไรต่อหน่วยสูง และสูญเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เช่น ไม่จําหน่ายสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย ไม่มีสินค้าแช่แข็ง แช่เย็น และไม่มีสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์จากนม เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดการที่สูง
นอกจากนั้น ห้างฯ ยังมีกลยุทธ์การตั้งราคาและจัดซื้อสินค้าแตกต่างจากห้างค้าปลีกรายอื่น โดยจะเริ่มจากการตั้งราคาสินค้าขายไว้ก่อน แล้วคํานวณย้อนไปหาต้นทุน เพื่อมองหาแหล่งสินค้าที่ทํากําไรมากสุด ในขณะที่ห้างค้าปลีกรายอื่นๆ จะใช้ราคาทุนเป็นจุดที่มากําหนดราคาขาย จึงทําให้ราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ที่ เข้ามากระทบการค้าเป็นระยะๆ แม้ Dollarama จะมีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องหาจุดแข็งของกิจการและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทําจะต้องแข่งขันกับห้างจําหน่ายสินค้าประหยัดรายอื่น ๆ อย่าง Dollar Tree ของสหรัฐอเมริกาที่มีสาขา 227 แห่งแคนาดา และห้าง Miniso ของจีนที่กําลังขยายตัวในอเมริกา เหนือและยุโรปอีกหลายแห่ง
จากสภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความรอบคอบในการเลือกจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ในการนี้ ธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ ต้องมีความตระหนัก และให้ความสนใจพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพื่อมองหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ และคอยหากลยุทธ์ที่พร้อมจะผลักดันให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงการนําเสนอสินค้าและบริการได้ตรงใจผู้บริโภคที่สุด เพื่อเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ และโอกาสสร้างรายได้ให้กับธุรกิจต่อไป
ที่มา :
- Dollarama profit jumps to as Canadians keep discount shopping and buy more when they do | CBC News
ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแวนคูเวอร์
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์