เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2566 สภาแห่งชาติเวียดนามได้มีความเห็นชอบข้อมติที่ 98/2023/QH15 ที่ว่าด้วย การนำร่องกลไกและนโยบายสำหรับการพัฒนานครโฮจิมินห์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2566 ที่จะถึงนี้ !
โดยข้อมติฯ ดังกล่าวให้ความเห็นชอบในการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบแก่หน่วยงานของนครโฮจิมินห์มากขึ้น โดยจะต้องทำสรุปผลดำเนินการในช่วงปี พ.ศ.2566-2569 และช่วงปี พ.ศ.2566-2571 เพื่อรายงานต่อสภาแห่งชาติเวียดนามในการประชุมช่วงปลายปี พ.ศ.2569 และ พ.ศ.2571


“กลไกและนโยบาย”
1. การจัดการการลงทุน นครโฮจิมินห์สามารถอนุมัติและดำเนินโครงการดังต่อไปนี้ได้เอง (1) โครงการนำร่องตามแนวทางการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน หรือ Transit Oriented Development: TOD (2) โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ Public – Private partnership: PPP ในด้านกีฬา วัฒนธรรม สุขภาพ การศึกษาและการฝึกอบรม โดยสภาประชาชนนครโฮจิมินห์สามารถกำหนดมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำได้เอง และ (3) โครงการปรับปรุงและขยายถนน ภายใต้แนวทาง Build-Operate-Transfer หรือ BOT
2. การเงินและงบประมาณ
(1) สภาประชาชนนครโฮจิมินห์สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมได้เอง ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลและรายได้งบประมาณส่วนกลาง โดยหากมีการกำหนดค่าธรรมเนียมรายการใดสูงกว่าที่ระบุในกฎหมายสามารถนำรายได้จากส่วนต่างมาเป็นงบประมาณของนครโฮจิมินห์ได้ทั้งหมด (2) นครโฮจิมินห์ สามารถระดมทุนผ่านการออกพันธบัตร สถาบันการเงินในประเทศ และกู้จากต่างประเทศ โดยสามารถมียอดหนี้คงค้างรวมสูงสุดร้อยละ 120 ของงบประมาณประจำปีทั้งหมด (3) นำร่องใช้กลไกทางการเงินเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในนครโฮจิมินห์เป็นที่แรกในประเทศ โดยนครโฮจิมินห์สามารถนำรายได้จากธุรกรรมคาร์บอนเครดิตมาเป็นงบประมาณของเมืองได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องส่งเข้ารัฐบาลกลาง และ (4) เพิ่มประสิทธิภาพของบริษัท Ho Chi Min City Finance and Investment Company (HFIC) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ระดมทุนเพื่อการพัฒนาของเมือง โดยจัดสรรรายได้จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ HFIC ตลอดจนกำไรจากการปล่อยกู้มาใช้ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อเพิ่มเพดานการปล่อยกู้สำหรับโครงการลงทุนที่สำคัญต่าง ๆ
3. การบริหารจัดการเขตเมืองและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
(1) ให้อำนาจสภาประชาชนนครโฮจิมินห์สามารถอนุมัติการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้พื้นที่ปลูกข้าวที่มีพื้นที่น้อยกว่า 500 เฮกตาร์ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ (2) กำหนดแนวทางการลงทุนในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะร่วมกับการจำกัดยานพาหนะส่วนตัวเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและการควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ (3) ให้อำนาจนครโฮจิมินห์จัดสรรที่ดิน/ที่อยู่อาศัย เพื่อสังคมในพื้นที่โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ หรือ ที่ดินจัดสรรให้เช่าโดยรัฐบาล
4. การดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ มีการกำหนดสาขาที่เป็นเป้าหมาย ได้แก่ (1) การสร้างศูนย์นวัตกรรม/ศูนย์วิจัยและพัฒนา (2) การวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูง (3) โครงการด้านอุตสาหกรรมวงจรรวมเซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีการออกแบบ และการผลิตชิ้นส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (4) โครงการก่อสร้างท่าเรือขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์นานาชาติ Can Gio
อีกทั้ง โครงการลงทุนในสาขาที่เป็นเป้าหมายจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การนำค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาไปลดหน่อยภาษีร้อยละ 150 ของค่าใช้จ่ายจริง เป็นต้น
5. การบริหารจัดการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 5 ปี ให้กับผู้ประกอบการด้านดังกล่าว หรือ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ ผู้มีความสามารถพิเศษ และสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์
6. การปรับโครงสร้างองค์กรของหน่วยงานรัฐ จัดตั้งกรมความปลอดภัยด้านอาหาร ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและตรวจสอบ รวมทั้งการออกใบรับรองการกักกันสินค้าอาหารสัตว์แทนกรมอนามัย กรมการเกษตรและการพัฒนาชนบท และกรมอุตสาหกรรมและการค้า เป็นต้น
7. การกระจายอำนาจให้เมือง Thu Duc กำหนดให้นครโฮจิมินห์กระจายอำนาจบางส่วนให้กับเมือง Thu Duc ดังนี้ (1) อนุมัติคัดเลือกนักลงทุน และลงนามในสัญญาโครงการการลงทุนแบบ PPP (2) อนุมัติโครงการลงทุนของนักลงทุนในประเทศที่ใช้แหล่งเงินทุนจากภายนอกพื้นที่เมือง Thu Duc (3) อนุมัติการปรับภารกิจ แผนการแบ่งเขตและรายละเอียดของโครงการในเมือง (4) อนุมัติโครงการการใช้สาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่น บ้านและที่ดิน เพื่อนการเช่าหรือร่วมทุน (5) เบิกจ่ายงบประมาณในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทั้งนี้ การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้กับเมือง Thu Duc ซึ่งอยู่ภายใต้นครโฮจิมินห์สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เมือง Thu Duc เป็นเขตที่เน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัล การบริการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ร่วมกับจังหวัดข้างเคียงในภูมิภาค และเป็น Smart city โดยมีเป้าหมายให้เมือง Thu Duc สร้างรายได้ ร้อยละ 30 ของ GRDP นครโฮจิมินห์ หรือร้อยละ 7 ของ GDP เวียดนาม

แหล่งที่มา : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์